วันอาทิตย์, ธันวาคม 14, 2551

สุขุมพันธุ์-แก้วสรร-ปลื้ม ลุยขอคะแนนเสียงตลาดสด

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในวันนี้ ( 14 ธ.ค.)ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ย่านตลาดสด เมืองทองธานี 1 เขตหลักสี่ โดยรับปากกับพ่อค้าแม่ค้าว่าจะดูแลให้สถานที่สำหรับซื้อขายสินค้าประเภทอาหารสดต่างๆ ให้มีความสะอาด สวยงาม น่าซื้อขาย และจะทำการจัดระเบียบตลาดสด เช่นเดียวกับ ตลาดสด อ.ต.ก.หรือตลาดสดอื่นๆ ที่มีการพัฒนาไปแล้ว โดยจะเร่งพัฒนาให้สภาพแวดล้อมของพื้นที่ กทม.ให้เป็นพื้นที่สีเขียว มีบรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่อาศัยและปราศจากมลพิษ
"สำหรับโพลล์ต่างๆ ที่ออกมาว่า มีคะแนนนำเหนือคู่แข่งทุกคนนั้น ไม่ได้สนใจมากนัก แต่สิ่งที่ต้องทำคือ การเดินหน้าเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนชาว กทม.โดยเฉพาะทำอย่างไรให้เมืองหลวงเกิดการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 12 ในนามอิสระ เดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยขออาสาเข้ามาดูแลพัฒนาเมืองธนบุรี และกล่าวว่า เป็นคนที่โตมาจากฝั่งธนบุรี ซึ่งแม้ว่าตนจะไม่ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ขอให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ จัดเมืองใหม่ สร้างกรุงเทพฯในยุครถไฟฟ้า โดยมีนโยบายสร้างระบบขนส่งระยะสั้น เพื่อขนส่งประชาชน ที่จะเดินทางมาจากรถไฟฟ้า และใช้ประโยชน์จากรางรถไฟเดิม ในการเชื่อมผู้โดยสารที่เดินทางมาจากมหาชัยเพื่อต่อมาเข้าเมือง รวมทั้งทำทางหลักเข้าออกทางทิศตะวันตกด้านเพชรเกษม เอกชัย และถนนพระบรมราชชนนี เป็นต้น โดยประเด็นหลักของการเชื่อมโยงระบบขนส่ง เพื่อเปิดทางให้คนฝั่งธนบุรีสามารถเดินทางเข้าเมืองสะดวกขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายแก้วสรรได้เข้าพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดวงเวียนใหญ่ เพื่อรับรู้ปัญหา โดยเฉพาะความต้องการขายของ 7 วัน โดยกล่าวว่า "หากเหตุผลของการหยุด เพื่อทำความสะอาดตลาดอย่างจริงจัง ก็สมควรหยุด ซึ่งเป็นนโยบายเดิมของนายอภิรักษ์ " หลังจากนั้น จึงไปพบปะกับผู้นำชุมชนเพื่อประชุมหารือถึงข้อดี ข้อไม่ดี ในนโยบายคืนความสุข อย่างไรก็ตาม ด้าน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ คุณปลื้ม ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงตลาด อ.ต.ก. โดยรับฟังปัญหาจากพ่อค้าแม่ค้าและผู้ใช้บริการตลาดนัดที่ร้องเรียนต่างๆ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่มาสำรวจสภาพตลาดซึ่งพบว่าทั้งสะอาด สว่างน่าเดิน อาจจะนำไปเป็นตัวอย่างให้ตลาดของ กทม.นอกจากนี้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวถึงปัญหาค่าเช่าแพงของผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรด้วยว่า ในเรื่องการต่อสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คิดว่าจะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งเชื่อว่า รฟท. คงคิดค่าเช่าแผงในอัตราที่เป็นธรรม ส่วนตัวจะไม่เข้าไปก้าวก่ายว่าควรอยู่ในอัตราใด ส่วนตลาดโบ๊เบ๊ก็เห็นว่าการขายต้องปฏิบัติไปตามกฎหมาย ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เย็นวันนี้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ จะไปพบกับข้าราชการ กทม.ที่สนามกีฬาศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ เพื่อรับฟังปัญหาและพูดคุยทั่วไป เชื่อว่าจะทำงานร่วมกับข้าราชการ กทม.ได้ไม่มีปัญหา ด้วยทีมรองผู้ว่าฯ กทม.ที่ยังไม่เปิดตัวเป็นผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ และเข้าใจระบบการทำงานของข้าราชการเป็นอย่างดีด้าน นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ ว่า เนื่องจากอยู่ในช่วงการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งมีทั้งทั้งการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร( ส.ส.) ในเขต 10 การเตรียมการจัดงานต่าง ๆ จึงมีข้อกฎหมายที่ต้องระมัดระวัง ดังนั้นในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2552 กทม. จะจัดกิจกรรมเฉพาะพิธีสงฆ์และกิจกรรมทางศาสนา โดยในวันที่ 30 ธ.ค.2551 จะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร พระพุทธรูปประจำ กทม. ไปประดิษฐานที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนได้สักการะขอพรเป็นสิริมงคลเนื่องในเทศกาลปีใหม่ และจะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 ม.ค. พ.ศ.2552 เท่านั้น ส่วนกิจกรรมนับถอยหลังหรือเคาท์ดาวน์ปีเก่าสู่ปีใหม่ 2552 รวมทั้งงานมหรสพหรือกิจกรรมบนเวทีจะไม่มี เพื่อให้เหมาะควรตามกฎหมายเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคเอกชนที่จะมีการจัดงานนับถอยหลังก็ดำเนินการไปได้ตามปกติ
ปลัด กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น กทม. ยังกล่าวว่า ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ทั้ง 14 คน ต้องระมัดระวังเรื่องการจัดงานเลี้ยงหรือร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ในเทศกาลปีใหม่ การจัดเลี้ยงตามประเพณีสามารถทำได้ แต่ต้องไม่จัดเลี้ยงในลักษณะจูงใจให้เลือกผู้หนึ่งผู้ใด เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนกรณีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่แห่สิงโตในการหาเสียง เป็นเรื่องที่กรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ จะต้องสืบสวนตรวจสอบ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้องเรียน