วันศุกร์, ธันวาคม 05, 2551

เยาวชนขอคนไทยจงรักภักดี ทำให้ ในหลวง มีความสุข

ฆวันนี้ (5 ธ.ค.) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง สังคมไทย รัฐบาล และคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีที่เด็กและเยาวชนไทยอยากเห็น กรณีศึกษาเยาวชนที่มีอายุ 15-18 ปีในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 1,925 ตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างเด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ติดตามข่าวการเมืองไม่แตกต่างไปจากกลุ่มผู้ใหญ่คือ กว่าร้อยละ 90 ติดตามข่าวการเมืองผ่านสื่อมวลชนเป็นประจำทุกสัปดาห์
เมื่อสอบถามถึงสิ่งที่เด็กและเยาวชนอยากเห็นในสังคมไทย พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.2 อยากเห็นประชาชนคนไทย ร่วมแสดงความจงรักภักดี ทำให้ในหลวงมีความสุข รองลงมาคือ ร้อยละ 88.4 อยากเห็นผู้ใหญ่ “เลิก” ทะเลาะกัน ร้อยละ 87.5 อยากเห็นคนไทยรักกัน ตลอดไป ร้อยละ 84.5 อยากเห็นความสงบสุขเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างถาวร ร้อยละ 81.4 อยากเห็นรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ สุจริต
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่ายังมีอีกหลายประการที่เยาวชนกว่าร้อยละ 70 อยากให้เกิดในสังคมไทย อาทิ ให้ทุกๆ ฝ่ายยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยไม่ใช้ความรุนแรง อยากเห็นปัญหาการเมืองได้ข้อยุติโดยเร็ว อยากเห็นนักการเมืองที่ทำผิดถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม อยากเห็นการเมืองใหม่ การเมืองภาคประชาชนที่เข้มแข็ง ด้วยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และอยากเห็นนักการเมืองมีจิตสำนึก เสียสละลาออกง่ายๆ เมื่อสังคมเห็นชัดแจ้งว่า ทำผิด
ส่วนคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เยาวชนต้องการนั้น ดร.นพดล กล่าวว่า เยาวชนเกือบร้อยละ 98.5 ระบุนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันด้วยความจริงใจ ในขณะที่มีจำนวนมากร้อยละ 97.7 ระบุต้องมีความรับผิดชอบ และต้องกล้าตัดสินใจร้อยละ 97.6 ระบุต้องมีความอดทน อดกลั้น ร้อยละ 97.5 ระบุมีจิตสำนึก จริยธรรมทางการเมือง
ทั้งนี้ ยังพบว่าเยาวชนมากกว่าร้อยละ 90 เรียกร้องว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถ มีความเสียสละ รู้จักให้อภัย มีความรวดเร็วฉับไวในการแก้ปัญหาประชาชน ในขณะที่ประมาณร้อยละ 80 ระบุต้องมีการศึกษาสูงตามลำดับ
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า เมื่อสอบถามถึงความเหมาะสมของบุคคลต่างๆ ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 47.4 ระบุนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความเหมาะสม ในขณะที่ร้อยละ 33.5 ระบุนายอานันท์ ปันยารชุน มีความเหมาะสม ร้อยละ 32.4 ระบุนายชวน หลีกภัย มีความเหมาะสม ร้อยละ 27.9 ระบุนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ มีความเหมาะสม และร้อยละ 27.3 ระบุพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร มีความเหมาะสม
นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงความเหมาะสมของบุคคลอื่นๆ อาทิ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ นายเตช บุนนาค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายชัย ชิดชอบ พบว่าประมาณร้อยละ 25 ที่ระบุว่าบุคคลเหล่านี้มีความเหมาะสม และเมื่อสอบถามความคิดเห็นกรณีการความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ร้อยละ 67.1 ระบุเห็นด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองได้แล้ว ในขณะที่ร้อยละ 32.9 ระบุไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามความเชื่อมั่นของเยาวชนกรณีการปกครองแบบประชาธิปไตยยังเป็นการปกครองที่เหมาะสมกับประเทศไทยอยู่ แม้ว่าจะมีวิกฤตต่างๆ เกิดขึ้นนั้น พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งคือ ร้อยละ 61.9 ระบุยังมีความเชื่อมั่นว่าเป็นเช่นนั้นอยู่ ในขณะที่ร้อยละ 19.6 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 18.5 ระบุไม่มีความคิดเห็น
ท้ายสุดเมื่อสอบถามความคิดเห็นกรณี ถ้าหากมีสิทธิเลือกตั้งได้ พรรคการเมืองหรือกลุ่ม ส.ส.ที่อยากให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่นั้น พบว่า ร้อยละ 24.7 ระบุอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ในขณะที่ร้อยละ 19.1 ระบุอยากให้พรรคเพื่อไทย (กลุ่มส.ส.เก่าจากพรรคพลังประชาชน) เป็นแกนนำ ร้อยละ 4.1 ระบุพรรคอื่นๆ ทั้งนี้กว่าครึ่งหนึ่งคือร้อยละ 52.1 ยังไม่ระบุพรรคการเมืองที่อยากให้เห็นเป็นแกนนำ