วันจันทร์, มกราคม 26, 2552

สุริยุปราคา


สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากพื้นโลก จะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์
สุริยุปราคามี 4 ประเภท ได้แก่
สุริยุปราคาบางส่วน: มีเพียงบางส่วนของดวงอาทิตย์เท่านั้นที่ถูกบัง
สุริยุปราคาเต็มดวง: ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์หมดทั้งดวง
สุริยุปราคาวงแหวน: ดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นวงแหวน เกิดเมื่อดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลจากโลก ดวงจันทร์จึงปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์
สุริยุปราคาผสม: ความโค้งของโลกทำให้สุริยุปราคาคราวเดียวกันกลายเป็นแบบผสมได้ คือ บางส่วนของโลกเห็นสุริยุปราคาเต็มดวง บางส่วนเห็นสุริยุปราคาวงแหวน บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง เป็นส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า
สุริยุปราคาอาจจัดเป็นการบังกันประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นเฉพาะในวันที่ดวงจันทร์มีดิถีตรงกับจันทร์ดับ


การสังเกตสุริยุปราคา
การมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าส่งจะผลเสียต่อตา ไม่ว่ามองเวลาใดก็ตาม แม้แต่มองดวงอาทิตย์ขนาดเกิดสุริยุปราคา แต่สุริยุปราคาก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจและศึกษาอย่างมาก การใช้อุปกรณ์ช่วยในการมอง เช่นกล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ก็ยิ่งทำให้เป็นอันตรายมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นในการมองดวงอาทิตย์ ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยกรองรังสีบางชนิดที่จะเข้าสู่ตา การใช้แว่นกันแดดในการมองเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่สามารถป้องกันสิ่งที่เป็นอันตราย รวมทั้งรังสีอินฟราเรดที่ตามองไม่เห็นซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเรตินาได้ การสังเกตจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ทำมาโดยเฉพาะ จึงจะสามารถมองดวงอาทิตย์ตรงๆ ได้
การสังเกตที่จะปลอดภัยต่อตามากที่สุด คือการฉายแสงจากดวงอาทิตย์ผ่านอุปกรณ์อื่น เช่น กล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ แล้วใช้กระดาษสีขาวมารองรับแสงนั้น จากนั้นมองภาพจากกระดาษที่รับแสง แต่การทำเช่นนี้ต้องมั่นใจว่าไม่มีใครมองผ่านอุปกรณ์นั้นโดยตรง ไม่เช่นนั้นจะทำอันตรายต่อตาของคนนั้นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ามีเด็กอยู่บริเวณนั้นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สามารถมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าโดยตรงได้ เฉพาะตอนที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้น นอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้ว สุริยุปราคาเต็มดวงยังสวยงามอีกด้วย หากมองขณะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ก็จะเห็นชั้นบรรยากาศโคโรนาของดวงอาทิตย์ ในบางครั้งอาจเห็นพวยแก๊สทีพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ ซึ่งปกติจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ควรหยุดมองดวงอาทิตย์ก่อนที่จะสิ้นสุดการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเล็กน้อย
การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงและบางส่วน
การเกิดสุริยุปราคา ส่วนสีเทาเข้มเป็นเงามืด ดวงอาทิตย์ถูกบังโดยดวงจันทร์อย่างสมบูรณ์ หากผู้สังเกตอยู่บริเวณที่เงามืดตกทอด จะสังเกตเห็นสุริยุปราคาเต็มดวง แต่หากผู้สังเกตอยู่บริเวณที่เงามัว (ส่วนสีเทาอ่อน) ตกทอด จะสังเกตเห็นสุริยุปราคาบางส่วน
วงโคจรของโลกและดวงจันทร์
ระบบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทตย์ (สุริยวิถี) กับระนาบวงโคจรของดวงจันทร์รอบโลกทำมุมกันประมาณ 5 องศา ทำให้ในวันจันทร์ดับส่วนใหญ่ ดวงจันทร์จะอยู่เหนือหรือใต้ดวงอาทิตย์ ซึ่งสุริยุปราคาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านบริเวณจุดตัดของระนาบวงโคจรทั้งสองในวันจันทร์ดับ
วงโคจรของดวงจันทร์เป็นรูปวงรี ทำให้ระยะห่างระหว่างดวงจันทร์ของโลกมีความแตกต่างกันได้ประมาณ 6 เปอร์เซนต์จากค่าเฉลี่ย ด้วยเหตุนี้ ทำให้ขนาดของดวงจันทร์ที่มองจากโลกอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าปกติได้ ส่งผลกระทบต่อการเกิดสุริยุปราคา ขนาดของดวงจันทร์เฉลี่ยเมื่อมองจากโลกมีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์เล็กน้อย ทำให้สุริยุปราคาส่วนใหญ่จะเกิดแบบวงแหวน แต่หากในวันที่เกิดสุริยุปราคานั้น ดวงจันทร์โคจรอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้โลก ก็จะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ส่วนวงโคจรของโลกก็เป็นวงรีเช่นกัน ระยะห่างระหว่างดวงอาทิตย์กับโลกก็มีค่าเปลี่ยนไปตลอดเวลา แต่ก็ส่งผลไม่มากนักกับการเกิดสุริยุปราคา
ดวงจันทร์โคจรรอบโลกใช้เวลาประมาณ 27.3 วัน เมื่อเทียบกับตำแหน่งการโคจรเดิม เรียกว่าเดือนดาราคติ แต่โลกก็โคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทางเดียวกัน ทำให้ระยะเวลาจากจันทร์เพ็ญถึงจันทร์เพ็ญอีกครั้งหนึ่งกินเวลานานกว่านั้น คือ ประมาณ 29.6 วัน เรียกว่า เดือนจันทรคติ
การนับเวลาที่ดวงจันทร์โคจรผ่านจุดตัดระหว่างวงโคจรของดวงจันทรและโลก (node) โดยเคลื่อนที่จากใต้เส้นสุริยะวิถีขึ้นไปทางเหนือ ครบหนึ่งรอบนั้นก็เป็นการนับเดือนอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน โดยเดือนแบบนี้จะสั้นกว่าแบบแรกเล็กน้อย เนื่องจากวงโคจรของดวงจันทร์เอียงไปมาจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ ครบรอบในเวลา 18.5 ปี เรียกเดือนแบบนี้ว่า เดือนดราโคนิติก
การนับเดือนอีกแบบหนึ่งคือ นับจากที่ดวงจันทร์โคจรจากจุดที่ใกล้โลกที่สุด (เรียกว่า perigee) ถึงจุดนี้อีกครั้ง การนับแบบนี้จะมีค่าไม่เท่ากับการนับแบบดาราคติ เนื่องจากวงโคจรของดวงจันทร์มีการส่ายโดยรอบซึ่งจะครบหนึ่งรอบใช้เวลาประมาณ 9 ปี เดือนแบบนี้เรียกว่า เดือนอะนอมัลลิสติก
ความถี่ในการเกิดสุริยุปราคา
วงโคจรของดวงจันทร์ตัดกับสุริยะวิถี 2 จุด ซึ่งห่างกัน 180 องศา ดังนั้น ดวงจันทร์ในวันจันทร์ดับจะอยู่บริเวณจุดนี้ 2 ปีต่อครั้ง ซึ่งโดยทั่วไปจะเกิดสุริยุปราคาทุกปี แต่ในบางปี ดวงจันทร์อาจโคจรอยู่ตำแหน่งวันจันทร์ดับใกล้ๆ กับสุริยะวิถี 2 เดือนติดกัน ทำให้บางปีอาจเกิดสุริยุปราคามากถึง 5 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เงามืดของดวงจันทร์มักจะทอดออกไปทางเหนือหรือใต้ของโลก โดยเงามัวจะทอดลงมาบนโลก ทำให้เกิดสุริยุปราคาบางส่วนที่บริเวณขั้วโลกเหนือเท่านั้น
ระยะเวลาในการเกิดสุริยุปราคา
สุริยุปราคาเต็มดวงจะเกิดในเวลาสั้นๆ เนื่องจากดวงจันทร์โคจรรอบโลกอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โลกก็โคจรไปรอบดวงอาทิตย์ด้วยเช่นกัน ทำให้เงามืดที่ตกบริเวณโลกเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจากตะวันตกไปตะวันออกในระยะเวลาสั้นๆ
หากสุริยุปราคาเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรอยู่ใกล้ตำแหน่ง perigee มากๆ จะทำให้สุริยุปราคาเต็มดวงสามารถสังเกตได้ในบริเวณกว้าง ประมาณ 250 กิโลเมตร และเวลาในการเกิดนั้นอาจนานประมาณ 7 นาที
สุริยุปราคาบางส่วน ซึ่งเกิดจากเงามัวของดวงจันทร์นั้นสามารถเกิดได้ในบริเวณกว้างกว่าสุริยุปราคาเต็มดวงมาก
ประโยชน์ของการสังเกตสุริยุปราคา
นักดาราศาสตร์ใช้การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงในการสังเกตชั้นบรรยากาศชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์ ซึ่งตามปกติจะไม่สามารถมองเห็นได้ เนื่องจากบรรยากาศชั้นโฟโตสเฟียร์ของดวงอาทิตย์นั้นสว่างกว่ามาก
สุริยุปราคามีระยะเวลา หรือวงรอบของการเกิดที่แน่นอน ทำให้สามารถทำนายการเกิดสุริยุปราคาครั้งต่อไปได้โดยการคำนวณอย่างง่ายๆจากความเร็วในการเคลื่อนที่ไปรอบดวงอาทิตย์ เปรียบเทียบตำแหน่งกับการที่ดวงจันทร์หมุนรอบโลก
จาก : วิกิพีเดีย

วันอาทิตย์, มกราคม 25, 2552

ตรุษจีนเยาวราช คึกคัก ปชช. ไหว้เจ้า-กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์



วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ย่านเยาวราช เต็มไปด้วยความคึกคักและสนุกสนาน ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เพื่อขอพรให้ทำมาหากิน ค้าขาย และประกอบอาชีพเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ ยังนำเครื่องเซ่นไหว้ ออกไปกราบไหว้ศาลเจ้า เพื่อกราบขอพรเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ตัวเองและครอบครัวอีกด้วย ส่วนบรรยากาศโดยทั่วไป ที่ย่านเยาวราชวันนี้ สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจน คือ ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนต่างสวมใส่เสื้อผ้าด้วยสีสันหลายหลาก โดยไม่เน้นสีแดง ตามความเชื่อเดิมที่เชื่อว่าเป็นสีแห่งความโชคดี สำหรับการจัดงานเทศกาลตรุษจีน ไชน่าทาวน์เยาวราช ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 มกราคมนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานเปิดงาน ในวันที่ 26 มกราคม เวลา 17.00 น. ด้านกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ได้แก่ การแสดงกายกรรม และศิลปวัฒนธรรม จาก 7 มณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดงทางวัฒนธรรม จากวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ การแสดงจากศิลปินจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พร้อมร่วมชมบรรยากาศการตกแต่งพื้นที่รอบๆ ถนนเยาวราชให้เป็นแบบจีนอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและเชื้อสายจีน รวมถึงชาวต่างชาติ ร่วมชมงานกันอย่างคับคั่ง


ที่มา : ผู้จัดการ ออนไลน์ ( 25 มกราคม 2552 16:45 น. )

วันเสาร์, มกราคม 24, 2552

วันศุกร์, มกราคม 23, 2552

Obama Leaves McCain Dumbstruck

รายงานข่าว วันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2552

1.ชทพ.ตั้ง "ชุมพล" หัวหน้าพรรค ลดกก.บห.เหลือ 9 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา (24 ม.ค.) มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นครั้งแรก โดยมีแกนนำพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายชุมพล ศิลปอาชา ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามีอดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเดินมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย อาทิ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายวราวุธ ศิลปอาชา นายนพดล พลเสน โดยต่างอ้างว่ามาเป็นพี่เลี้ยงของส.ส.ใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกหลาน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีได้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คือ นายชุมพล ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค นายปรีชา จั่นเพชร เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ นายกฤต รัตนคามินี เป็นรองหัวหน้าพรรค ซึ่งเดิมเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายถาวร จำปาเงิน เป็นรองเลขาธิการ นายอรรฆชัย ตระการศาสตร์ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค นางพวงรัตน์ ชัยบุตร เป็นเหรัญญิกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นโฆษกพรรค นายประสาร เรืองสุขอุดม เป็นกรรมการบริหารพรรคและนายสุรชัย ทิณเกิด เป็นกรรมการบริหารพรรค โดยทางพรรคได้มีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคเหลือเพียง 9 คนเท่านั้น

2.รวบ 9 ผู้ต้องหา เตรียมป่วนใต้ช่วงตรุษจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (24 ม.ค.) ว่า ที่ห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้น ป้องกันการก่อเหตุในช่วงตรุษจีน โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกปิดล้อมตรวจค้นทั้ง 13 อำเภอ ใช้กำลังกว่า 600 นาย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน แยกเป็นพื้นที่ สภ.สุไหงโก-ลก จับได้ 3 คน พื้นที่ สภ.เมืองนราธิวาส จับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน และอีก 1 คน ถูกจับกุมในพื้นที่ สภ.เจาะไอร้อง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ถูกจับกุมได้ พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบยาเสพติดกัญชาและใบกระท่อมอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

3.นายกฯ ประกาศเดินหน้าดัน กม.เก็บภาษีที่ดิน-มรดก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (24 ม.ค.) ถึงกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีแนวคิดจะผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ... และร่างกฎหมายภาษีมรดก ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะเดินหน้า เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบภาษี แต่ทั้ง 2 เรื่องต้องพิจารณา ให้รอบคอบ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรณีภาษีที่ดินทรัพย์สินอาจจะไม่ซับซ้อนมากนัก เพราะมีแนวคิดเดิมอยู่ เพียงแต่ต้องดูให้รอบคอบทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด หลักใหญ่ คือ การทำให้ภาษีโรงเรือนกับภาษีบำรุงท้องที่มารวมกันมีเหตุมีผลมากขึ้น ซึ่งเป็นรายได้ที่จะเป็นกอบเป็นกำมากขึ้นสำหรับท้องถิ่น และต้องยกเว้นให้ผู้ที่มีความจำเป็น เช่น เรื่องที่อยู่อาศัย แต่ว่า ต้องมีบทบัญญัติในลักษณะที่ทำให้เสียในอัตราก้าวหน้าสำหรับผู้ที่มีที่ดินว่างเปล่า ทิ้งไว้ไม่ใช้ประโยชน์

สำหรับกรณีภาษีมรดก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงมีรายละเอียดที่จะต้องดูว่า จะเก็บ และมีข้อยกเว้นอย่างไร เพราะภาษีมรดกในต่างประเทศเองระยะหลังต้องมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของการปฏิรูปภาษีจะเดินต่อ แต่คงไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาสั้นๆ และคิดว่า คนที่ได้รับผลกระทบจะเริ่มเข้าใจทำไมถึงมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้

“กรณีของภาษีที่ดิน หรือ ภาษีทรัพย์สินต้องยอมรับว่า จุดสำคัญของความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคมเริ่มต้นจากทรัพย์สินกระจายไปไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งกรณีที่ได้มาโดยน้ำพักน้ำแรงก็เข้าใจ แต่หากทรัพย์สินมีลักษณะของการสะสมและทิ้งไว้เฉยๆ ในขณะที่คนจำนวนมากมีความต้องการ เช่น มีคน มีที่ดินมากมายมหาศาล ทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า ในขณะที่รัฐต้องมานั่งแก้ที่ทำกินให้ประชาชนแบบนี้ ไม่เป็นธรรมสำหรับสังคมโดยรวม ดังนั้น เชื่อว่า ทำความเข้าใจได้ไม่มีปัญหา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

วันอาทิตย์, มกราคม 18, 2552

ทีวีไทย“ครบรอบ ๑ ปี”๑๕ มกราคมนี้ เปิดใช้อัตลักษณ์ใหม่ เน้นการมีส่วนร่วมของสังคม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านข่าว



ทีวีไทย“ครบรอบ ๑ ปี”๑๕ มกราคมนี้ เปิดใช้อัตลักษณ์ใหม่ เน้นการมีส่วนร่วมของสังคม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านข่าว ทุ่มเงิน ๑๐๐ ล้าน สนับสนุนผู้ผลิตอิสระและผู้ผลิตระดับชุมชน เสาร์-อาทิตย์เน้นรายการสำหรับเยาวชนและครอบครัว เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๒ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) แถลงข่าวครบรอบ ๑ ปี (๑๕ มกราคม) เปิดตัวอัตลักษณ์ใหม่ พร้อมชื่อเรียก “ทีวีไทย” รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา เตรียมพร้อมเต็มที่เดินหน้าต่อ ปี ๒๕๕๒ จัดสรรเงิน ๑๐๐ ล้านบาท เปิดช่องทางผลิตรายการออกอากาศทางทีวีไทยให้กับผู้ผลิตอิสระและผู้ผลิตระดับชุมชน พร้อมปรับผังรายการให้มีความหลากหลายในมิติต่างๆ เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ด้านข่าว รายการเสาร์-อาทิตย์ เน้นรายการสำหรับเด็กและเยาวชน ให้ครอบครัวมั่นใจเปิดชมได้ตลอดวัน ศาสตราจารย์เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “หลังการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๑ ปัจจุบัน องค์การจะดำเนินงานครบรอบ ๑ ปี ในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๒ นี้ ตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา ได้มีภารกิจเร่งด่วนหลายอย่าง เพื่อให้องค์การเดินหน้าต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด กล่าวโดยสรุปคือ เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๑ ได้มีประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายชั่วคราว ๕ คน และสิ้นสุดการบริหารงานเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ จากนั้นมีการสรรหาคณะกรรมการนโยบายถาวร ๙ คน เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศรายชื่อในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๑ ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการริเริ่มงานนโยบายด้านบริหาร การจัดการ และการพัฒนารายการและการออกอากาศอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๑ ที่คณะกรรมนโยบายชุดปัจจุบันได้เข้าทำงาน สรุปงานหลักได้เป็น ๒ ส่วน คือ ๑. ส่วนที่ต้องเร่งรีบทำตามกฎหมายของ ส.ส.ท. ๒. งานเกี่ยวกับการจัดโครงสร้างของ ส.ส.ท. และการแก้ปัญหาที่ทำงานขององค์การ โดยงานในส่วนที่ต้องรีบดำเนินการตามกฎหมายและดำเนินการแล้วนั้น คือ การคัดเลือกผู้อำนวยการของ ส.ส.ท. ซึ่งปัจจุบันผ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง คือ คุณเทพชัย หย่อง และการคัดเลือกคณะกรรมการผู้ชมและผู้ฟัง ซึ่งได้วางกฎเกณฑ์ ระเบียบเกี่ยวกับการสรรหาสมาชิกสภาผู้ชมผู้ฟัง จำนวน ๕๐ คน โดยแบ่งตามเขตพื้นที่ ๙ ภูมิภาคพื้นที่ทั่วประเทศ และตามกลุ่มเฉพาะจากเครือข่ายภาคประชาสังคม จำนวน ๑๖ กลุ่ม ซึ่งได้คัดเลือกและได้จัดให้มีการประชุมสภาในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ และได้มีการเลือกตั้งได้ คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม เป็นประธานสภาผู้ชมผู้ฟัง นอกจากนี้ที่ผ่านมายังได้มีการคัดเลือกและการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารของ ส.ส.ท. , การตั้งคณะ อนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน , การออกระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการและพนักงานของ ส.ส.ท. โดยแบ่งออกเป็น ๓ เรื่อง คือ ๑ ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของผู้ที่เป็นกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ๒ ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมวิชาชีพเกี่ยวกับการผลิตและการเผยแพร่รายการ ๓ แนวปฏิบัติเกี่ยวกับจริยธรรมวิชาชีพของผู้ทำงานของการผลิตและเผยแพร่รายการของ ส.ส.ท. นอกจากงานเกี่ยวกับคณะกรรมการชุดต่างๆ แล้ว ก็ได้มีการร่างระเบียบการทำงานต่างๆ ของ ส.ส.ท. เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาลในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเป็นองค์กรสื่อสาธารณะ สำหรับงานเกี่ยวกับการจัดโครงสร้างและการแก้ปัญหาที่ทำการขององค์การนั้น ได้มีการต่อสัญญาเช่าสัญญาณไทยคมต่อไปอีก ๔ ปี และสัญญาเช่าที่ทำงานต่ออีก ๓ ปี รวมทั้งการจัดหาที่ทำงานถาวรของ ส.ส.ท. เนื่องจากปัจจุบันต้องเสียค่าเช่าสถานที่ทำงานขององค์การปีละ ๔๐ กว่าล้านบาท ดังนั้นคณะกรรมการจึงได้ตัดสินใจหาที่ทำงานถาวร ของ ส.ส.ท. โดยได้จัดหาและซื้อที่ดินในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ และมีแผนที่จะสร้างสถานที่ ทำการในปี ๒๕๕๒ โดยมีเป้าหมายจะออกอากาศในปี ๒๕๕๔ ในส่วนการจัดโครงสร้างการทำงานขององค์การ คณะกรรมการนโยบายมีเป้าหมายที่จะจัดการทำงานขององค์การ ให้มีความกะทัดรัด มีประสิทธิภาพ ใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า และมีธรรมาภิบาล โดยได้จัดรูปขององค์กรเป็น ๓ ส่วนใหญ่ คือ ด้านสื่อสาธารณะ ด้านการบริหาร และด้านประชาสังคม และเพื่อเป็นการสร้างวัฒนธรรมขององค์การสื่อสาธารณะและเป็นสื่อเพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม จำเป็นต้องให้พนักงานมีจิตสำนึกของการทำงานสื่อสาธารณะ ซึ่งกำลังดำเนินการจัดการฝึกอบรม ความรู้ ความเข้าใจ และสร้างวัฒนธรรมองค์การให้เป็นองค์การสื่อสาธารณะอย่างแท้จริง นอกจากงานที่ได้ทำตามที่กฎหมายกำหนดและการปรับปรุงการทำงานขององค์การโดยทั่วไปแล้ว คณะ กรรมการนโยบายได้มีนโยบายที่แน่วแน่จะพัฒนาองค์การและการทำงานของ ส.ส.ท. ให้เป็นองค์การสื่อสาธารณะอย่างแท้จริง เพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนไทยทุกคน” ศาสตราจารย์เกริกเกียรติ กล่าวสรุป นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การดำเนินงานที่ผ่านมาตลอด ๑ ปี เรามั่นใจว่าเดินมาถูกทางและเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ชม เนื่องจากทีวีไทยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมกันผลักดันและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ผ่านมาในสังคม ไม่ว่าจะผ่านทางรายการข่าว รายการเวทีสาธารณะ นักข่าวพลเมือง หรือทีวีชาวบ้าน สอดคล้องกับหลักการของ ทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง โดยในปี ๒๕๕๒ นี้ เริ่มที่การ เปลี่ยนอัตลักษณ์ใหม่ ของสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย เพื่อตอกย้ำและสร้างความจดจำสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น โดยใช้นกเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร ใช้สีส้มเพื่อแสดงความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง การเคลื่อนไหว และความอบอุ่น รวมทั้งเน้นชื่อ ทีวีไทย ให้ชัดเจนเพื่อเป็นชื่อเรียกประจำสถานีให้มีเอกภาพยิ่งขึ้น ด้านรายการของสถานี สัดส่วนรายการเดือนมกราคม ๒๕๕๒ จะแบ่งเป็น รายการข่าว ๔๕.๒๕% รายการสารคดี ๑๒.๖๒% รายการสารประโยชน์ ๑๖.๑๔% รายการเด็กและเยาวชน ๑๓.๑๕% รายการสาระบันเทิง ๑๒.๐๒% และรายการกีฬา ๐.๘๓% สัดส่วนรายการยังคงเน้นหนักที่รายการข่าว แต่ การนำเสนอข่าว จะไม่เป็นเพียงแค่การให้ข้อมูลเท่านั้น แต่จะนำเสนอข่าวที่สามารถยกระดับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม การจุดประเด็นปมปัญหาต่างๆ และก่อให้เกิดการรวมกลุ่มแก้ไขโดยคนในชุมชนและเครือข่ายในท้องที่ของตนเอง ซึ่งปัจจุบันสถานีได้ยกระดับสถานีภูมิภาค ให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมทำข่าวกับทีวีไทย เช่น การพัฒนานักข่าวพลเมือง และการเปิดโครงการนำร่องที่ให้ชุมชนมีส่วนร่วมผลิตรายการ คือรายการ ดีสลาตัน-ณ แดนใต้ ซึ่งจะเป็นแบบแผนในการปรับปรุงสถานีภูมิภาคที่ภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไปในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ สถานียัง ทุ่มงบประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตอิสระและผู้ผลิตระดับชุมชนและจัดสรรเวลาออกอากาศที่เหมาะสมสำหรับรายการเหล่านี้ โดยผังรายการในปีหน้าจะเน้นรายการที่สร้างสรรค์สังคม เน้นความหลากหลายของเนื้อหาในมิติต่างๆ เพื่อให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกกลุ่ม ทุกวัย ได้ติดตามชม รวมทั้งผังในช่วงของวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่ ๐๖.๐๐-๑๘.๓๐ น. และรายการจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา ๑๖.๐๐-๑๗.๐๐ น. จะเน้นรายการสำหรับเด็กและเยาวชนเป็นหลัก ซึ่งรายการที่ทีวีไทยคัดเลือกมานั้นจะไม่เป็นพิษภัยต่อเด็ก และสามารถดูเพื่อความสนุก เสริมสร้างทักษะความรู้ได้ทั้งครอบครัว เช่น ขบวนการนักอ่าน เป็นเด็ก คู่หูทดลองวิทย์ มหัศจรรย์ความคิด มดคันไฟ พลเมืองเด็ก ขบวนการไร้พุง การ์ตูนเป็นต้น สำหรับรายการใหม่ที่จะนำเสนอในผังปี ๒๕๕๒ นั้น มุ่งตอบสนองทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น รายการข่าว ดีสลาตัน ณ แดนใต้ มีเนื้อหาเน้นข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับภาคใต้ทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของ ส.ส.ท. เพื่อพัฒนายกระดับศักยภาพของสถานีโทรทัศน์ภูมิภาค ให้ผลิตรายการโทรทัศน์สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมอย่างแท้จริง โดยจะออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เวลา ๑๑.๐๐ น. เริ่ม ๙ มกราคม นี้ ในพื้นที่ ๖ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี สตูล ยะลา นราธิวาส พัทลุง) โครงการเปลี่ยนประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ในการเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอต่อการปฏิรูปการเมือง สังคม อย่างกว้างขวาง โดยการมีส่วนร่วมของสังคมจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนและยกระดับประเทศไทยในมิติต่างๆ เริ่มเมษายน ๒๕๕๑ นักข่าวพลเมือง จะขยายเวลาและปริมาณการออกอากาศเพิ่มขึ้นในทุกช่วงรายการข่าว (ข่าวภาคเช้า/ข่าวภาคเที่ยง/ข่าวค่ำ/ข่าวดึก และทุกช่วงข่าวเบรก) จากเดิม ปี ๒๕๕๑ ออกอากาศเพียงในรายการ ที่นี่ ทีวีไทย โดยเริ่มรูปแบบใหม่ มิถุนายน ปีนี้ รายการงานเข้า ทางออกสำหรับคนว่างงาน เป็นพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการงาน และผู้ประกอบการที่ต้องการบุคลากรเข้าทำงาน รวมทั้งเป็นพื้นที่ให้ผู้ใช้แรงงานได้แสดงความสามารถของตนเอง เริ่มเร็วๆ นี้ รายการประเภทสารคดีและสารประโยชน์ เสด็จประพาสต้น สารคดีที่จะเผยแพร่ให้ประชาชนชาวไทย ได้ประจักษ์ในพระอัจฉริยภาพและพระราชจริยาวัตรอันดีงาม ในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามที่ระบุไว้ในพระราชหัตถเลขาทั้ง ๔๓ ฉบับ เริ่มเมษายนนี้ เจิ้งเหอ (Zheng He) สารคดีจากสถานีโทรทัศน์ CCTV ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเจิ้งเหอ ขุนนางจีน ที่เริ่มออกเดินทางไปทะเลตะวันตก พร้อมกับกองเรือสำเภาจำนวน ๓๑๗ ลำ เป็นการเดินทางสู่ต่างแดนมากกว่า ๓๗ ประเทศ ในระยะเวลา ๒๘ ปี กองเรือของเจิ้งเหอจึงมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในสมัยนั้น โดยมีการกล่าวว่า กองเรือจีนภายใต้การควบคุมของเจิ้งเหอ เป็นผู้ค้นพบทวีปอเมริกาตั้งแต่ปี ๑๙๖๔ ก่อนที่โคลัมบัสจะค้นพบถึง ๗๑ ปี (โคลัมบัสค้นพบอเมริกาในปี ๒๐๓๕) และค้นพบทวีปออสเตรเลียก่อนหน้ากัปตันเจมส์ คุก อีก ๓๕๐ ปี เรื่องเล่า ๙ แผ่นดิน เป็นสารคดี (Docudrama) ที่สมบูรณ์แบบแนวใหม่ที่ยิ่งใหญ่แห่งปี โดยจะปลุกประวัติศาสตร์ให้กลับมามีชีวิต พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอันหลากหลายในอดีตยุคสมัยรัตนโกสินทร์ มาเผยแพร่สู่โลกปัจจุบัน เพื่อส่งต่อไปยังอนุชนรุ่นหลังว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ความทรงจำ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงคือการสร้างสังคมไทย เริ่มเมษายนนี้ พินิจนคร สารคดีบอกเล่าเรื่องราวของนครต่างๆ จากอดีตตั้งแต่ก่อสร้างบ้านแปลงเมือง ผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน ด้วยข้อมูลที่ให้เห็นถึงรากแห่งนครอย่างพินิจพิเคราะห์ เริ่ม ๒ กุมภาพันธ์ ทุกวันจันทร์ เวลา ๒๐.๒๐ น. มหัศจรรย์สุวรรณภูมิ สารคดีที่นำเสนอสิ่งมหัศจรรย์ที่น่ายกย่อง ซึ่งเกิดขึ้นในแผ่นดินสุวรรณภูมิ แง่มุมทั้งที่หลายคนอาจรู้และยังไม่รู้อย่างลึกซึ้ง นำเสนอรูปแบบคล้ายภาพยนตร์ เริ่ม ๓ กุมภาพันธ์ ทุกวันอังคาร เวลา ๒๐.๒๐ น. โลกหลากมิติ ชุด มหากาพย์แห่งชนเผ่า สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวโลกแห่งพิธีกรรมและวิถีการดำเนินชีวิตที่แทบไม่เคยมีใครสำรวจพบ ที่สุดแห่งความน่าสนใจและวัฒนธรรมแห่งชนเผ่าที่ยังไม่ถูกเปิดเผย นำเสนอทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา ๒๓.๐๐ น. วิจัยไทยคิด นำเสนอในรูปแบบเกมโชว์ ที่มีการนำเสนอความรู้ทั้งในส่วนที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ผลงานจากการวิจัยของคนไทย ทุกวันอาทิตย์ เวลา ๑๖.๐๕ น. เริ่ม ๑๘ มกราคม ตามรอยเท้าพ่อ เป็นละครจบในตอนที่ผลิตขึ้นโดยยึดหลักกระแสพระราชดำรัส และหลักปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการดำเนินเรื่องสร้างสรรค์ ให้เกิดแรงบันดาลใจพร้อมทั้งให้แง่คิดแก่ผู้ชมเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ๐๙.๐๐ น. รายการสาระบันเทิง ไทยโชว์ เป็นรายการที่มุ่งเชิดชูศิลปะดนตรีและการแสดงของไทยโดยให้ยอดฝีมือในแต่ละด้านมาแสดงในลีลา ร่วมสมัย สนุก และสอดแทรกด้วยสาระ เริ่ม ๖ กุมภาพันธ์ ทุกวันศุกร์ เวลา ๒๐.๒๐ น. CHANGE ซีรีส์ญี่ปุ่น ที่นำเสนอเรื่องราวของครูหนุ่มที่เบื่อหน่ายการเมือง แต่ต้องพลิกผันเข้าสู่สนามการเมือง และมุ่งหวังจะเห็น “ความเปลี่ยนแปลง” ที่ดีขึ้นของประเทศ ภาพยนตร์ซีรีส์ที่กระตุ้นเตือนกระแสสังคม มุ่งหวังให้เกิดการเมืองใหม่ในฝัน เป็นซีรีส์ที่ผู้ชมชาวไทยรอคอยและเรียกร้องมากที่สุดเรื่องหนึ่ง นำแสดงโดย “ทาคุยะ คิมุระ” นัก แสดงอันดับ ๑ ของญี่ปุ่น ที่ติดอันดับความนิยมสูงสุดติดต่อกันเป็นระยะเวลา ๑๕ ปี เริ่มเร็วๆ นี้ หนึ่งวันเดียวกัน รายการสำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่สร้างแรงบันดาลใจผ่านการมองโลกในแง่บวก เพื่อกระตุ้นให้กล้าทำในสิ่งที่ดีและแตกต่างเพื่อตัวเองและสังคม ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา ๒๒.๐๕ น. ต้นฉบับ รายการที่นำเสนอเรื่องชีวิตและประวัติของบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดีของสังคม พูดถึงความเป็นมา และผลงานของบุคคล หรือกลุ่มคนในแวดวงต่าง ๆ โดยจะเน้นไปที่ความเป็นต้นฉบับการเป็นตัวอย่างที่ดี และเป็นผู้ที่สามารถส่งต่อแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้คนรุ่นต่อไป ละครหลายชีวิต “หลายชีวิต” เป็นอมตะนวนิยายสร้างขึ้นจากบทประพันธ์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มีเนื้อหาทรงคุณค่าแฝงด้วยข้อคิด คติสอนใจ ที่มุ่งหวังปลุกจิตสำนึกให้เห็นถึงผลบุญและผลกรรมจากการกระทำของมนุษย์ ละครเรื่องนี้มุ่งหวังที่จะสร้างความแคลงใจทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาธรรม เริ่มเมษายนนี้ รายการเด็กและเยาวชน ทีนดี (Teen D) รายการวัยรุ่น ที่มีจุดมุ่งหมายให้เยาวชนหันมาสนใจเหตุการณ์บ้านเมืองมากขึ้น พบกับประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในสังคม และปิดท้ายรายการด้วยการนำเสนอกิจกรรมดีๆของเยาวชนที่สร้างสรรค์สังคม หรือเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น กล่องนักคิด (Box Box Club) จากแนวคิดที่ว่า เด็กทุกคนมีกล่องความคิดของตัวเอง รายการนี้จะมาช่วยกันเปิดกล่องความคิดของเด็กๆ โดยให้น้องๆได้ใช้ความคิดในการไขปริศนา สนุกกับการค้นหาคำตอบ และเป็นการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆ “คิดเก่งหรือไม่ ไม่สำคัญ ขอแค่กล้าคิด” คนมีของ (ฟิ้ว ออนทีวี) รายการโทรทัศน์ที่มุ่งหวังให้เยาวชนและผู้ที่สนใจสื่อสร้างสรรค์ เปิดพื้นที่แสดงศักยภาพของตนเอง ซึ่งรายการจะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยง และนำเสนอองค์ความรู้ทั้งในด้านกระบวนการผลิต และวิธีคิดเนื้อหาอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้เยาวชนรู้เท่าทันสื่อ และใช้เทคโนโลยีในทางที่เหมาะสม พร้อมเปิดพื้นที่ให้ผู้ผลิตสื่ออิสระเข้ามาเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพเพื่อก้าวไปสู่คนทำสื่อสร้างสรรค์รุ่นใหม่ Jay Jay The Jet Plane ภาพยนตร์การ์ตูนสำหรับเด็กที่ติด ๑ ใน ๕ ความนิยมสูงสุดของสถานี PBS สหรัฐอเมริกา ได้รับการจัดอันดับให้เป็นรายการที่น่าดูสูงสุดสำหรับเด็กและเป็นรายการที่ได้รับรางวัลจากพ่อแม่ที่เลือกว่าเหมาะสมกับเด็ก การ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องราวการผจญภัยของ Jay Jay เครื่องบินเจ็ทอายุ ๖ ขวบ กับ Brenda Blue ช่างเครื่องประจำสนามบินที่จะมาสอนให้เด็กๆ สนุกไปกับบทเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และธรรมชาติ ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา ๐๖.๑๐-๐๖.๓๕ น. ขบวนการนักอ่าน นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนังสือ ในรูปแบบรายการที่ทันสมัย หลากหลาย ผสมผสานสาระเข้ากับมุขตลก โดยเน้นที่หนังสือดี ๆ สำหรับเด็ก จูงใจให้ผู้ชมรักการอ่าน ใกล้ชิดกับหนังสือ เห็นคุณค่าของหนังสือทั้งในแง่ของการให้ความรู้ จินตนาการ และความสุข อยากเป็นคนที่รักการอ่าน เพื่อให้เป็นรายการสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัวอย่างแท้จริง ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา ๐๗.๐๐ น. การพัฒนารายการต่างๆ ขององค์การฯ ยังได้เริ่มการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรสื่อ ในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารและรายการ ตลอดจนร่วมฝึกบุคลากร โดยมีแผนที่จะสร้างความร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์สาธารณะอื่นๆ ในภูมิภาคต่อไป” นายเทพชัย กล่าวสรุป นอกจากการเปิดสถานีโทรทัศน์เป็นสื่อนำร่องแล้ว องค์การฯ ยังเปิดสื่ออื่น ได้แก่ สื่อวิทยุออนไลน์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปีนี้ สามารถรับฟังผ่านทาง www.thaipbs.or.th/eradio ซึ่งในอนาคตเมื่อได้คลื่นความถี่จาก กสทช. จะเปิดคลื่นวิทยุไทย อย่างเต็มรูปแบบ ในส่วน Website องค์การได้ปรับเนื้อหาและรูปแบบใหม่ ซึ่งเน้นการนำเสนอข่าวสารที่ฉับไว รวดเร็ว เกาะติดสถานการณ์ สามารถติดตามชมรายการสดและรายการย้อนหลังของทางสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย พบกับโฉมใหม่ได้ทาง www.thaipbs.or.th ๑๕ มกราคมนี้

รายงานข่าว วันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2552

1.อั้นไม่อยู่ ปตท.-บางจาก ปรับเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 80 ส.ต.

นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติกา กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย กล่าวว่า ปตท.ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 80 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่เช้าวันนี้ (18 ม.ค.) หลังผู้ค้ารายอื่นทยอยปรับขึ้นราคาตั้งแต่วันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันของปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีราคาเท่ากันการปรับราคาดังกล่าวค่าการตลาดรวมของการจำหน่ายน้ำมันอยู่ที่ 50 สตางค์ต่อลิตร จากที่ควรจะเป็นต้องไม่ต่ำกว่า 1.20 บาทต่อลิตร
นายปรัชญา กล่าวว่า การปรับขึ้นของราคาน้ำมันยังคงเป็นไปตามราคาตลาดโลกที่ในขณะนี้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินขยับสูงขึ้น โดยยอมรับว่าราคาน้ำมันปีนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ผันผวน ซึ่ง ปตท.คาดว่าในส่วนของราคาน้ำมันดิบแม้ช่วงต้นปีจะราคาต่ำลงมาอยู่ประมาณ 36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดว่าราคาน้ำมันปีนี้คงจะได้เห็นระดับ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ขึ้นราคาน้ำมันเช่นเดียวกัน สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันหลังมีการปรับขึ้นแล้ว มีดังนี้ เบนซิน 91 อยู่ที่ 22.19 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 16.89 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลไม่มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 18.94 บาทต่อลิตร และบี5 อยู่ที่ 17.44 บาท ต่อ


2.ตร.ชี้ปมสังหาร 'ป๋าแบน' ขัดแย้งธุรกิจนอกกฎหมาย

วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 ยิงถล่มนายวิโรจน์ วิเศษพงษ์พันธ์ อายุ 62 ปี หรือ ที่รู้จักกันที่ไปวงการนักธุรกิจว่า ป๋าแบน เจ้าของธุรกิจประมงใน อ.กันตัน และเจ้าของสถานบันเทิงหลายจังหวัด อยู่บ้านเลขที่ 59 ถ. สถลสถานพิทักษ์ เขตเทศบาลเมืองกันตัง อ.กันตัง เสียชีวิตคาพวงมาลัยที่หน้าสำนักงานขนส่ง จ.ตรัง เมื่อคืนที่ผ่านมา
พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก.สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ผู้ตายทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น เรือประมง สถานบันเทิง และธุรกิจนอกกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ถูกฆ่าในครั้งนี้ ซึ่งตร.จะต้องสอบสวนในหลายประเด็น แต่ประเด็นการขัดแย้งกับคู่อริกับเรื่องธุรกิจนอกกฎหมายมีน้ำหนักมากที่สุด ขณะที่พ.ต.ต.สราวุฒิ จงจิตร หัวหน้าวิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้ทำการพิสูจน์รถเก๋งโตโยต้าคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 6684 ตรัง ของผู้ตายพบรูกระสุนถูกยิงเข้าที่บริเวณกระจกด้านหน้าฝากระโปรง และกระจกด้านข้างคนขับ จำนวน 39 รู พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 ตกในรถอีก 2 ปลอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วานนี้ (17 ม.ค.) นายวิโรจน์ เป็นนักธุรกิจประมงในอำเภอกันตัง มีฐานะร่ำรวย ก่อนที่จะพลิกผันมาเป็นเจ้าของสถานบันเทิงเซย์เยสผับ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถมาเพียงลำพัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ยืนรออยู่ริมถนน และได้โบกมือให้ นายวิโรจน์ หยุดรถ จากนั้นคนร้ายเป็นชายอีก 2 คน ที่ซุ่มอยู่ในมุมมืดได้เดินออกมา แล้วใช้อาวุธปืนชนิดเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก กระหน่ำยิงใส่ร่าง และรถอย่างไม่ยั้งมือจนกระทั่งเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายอีก 1 คน ได้ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามารับเพื่อนร่วมทีมหลบหนี และเชื่อว่ากลุ่มคนร้าย มีความชำนาญในการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี ภายหลังทราบเหตุดังกล่าว สถานบันเทิงเซย์เยสผับ ได้หยุดกิจการทันที ซึ่งบรรดาพนักงานของสถานบันเทิง และประชาชนต่างไปมุงดูเหตุการณ์ถึง 500 คน


3.หนาวเกินพิกัด คนกรุงใช้น้ำลดลง 3 แสนลบ.ต่อวัน

วันนี้ (18 ม.ค.) นายวีรชาติ โอฬารพิริยกุล รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (ผลิตและส่งน้ำ) (กปน.) กล่าวว่า ในระยะนี้เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศหนาวเย็นกว่าปกติ ส่งผลการใช้น้ำประปาของประชาชนลดลงถึงวันละประมาณ 3 แสนลูกบาศก์เมตร จากที่ปกติ กปน. เคยสูบจ่ายวันละ 4.8 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะเมื่อวันจันทร์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ซี่งมีอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ จนส่งผลให้การสูบจ่ายน้ำลดลงเหลือเพียงวันละ 4.5 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น หรือลดลงประมาณ 6.25% เนื่องจาก กปน. ได้ติดตั้งเทคโนโลยีวัดแรงดันน้ำอัตโนมัติระยะไกลแบบ real time ในระบบท่อ จึงทำให้ กปน. สามารถทราบถึงปริมาณความต้องการการใช้น้ำทุกขณะ จึงสามารถปรับและลดแรงดัน พร้อมทั้งปริมาณน้ำสูบจ่ายได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการใช้น้ำจริงของประชาชน ทั้งนี้เพื่อช่วยป้องกันระบบท่อที่อาจจะเสียหายเพราะแรงดันน้ำที่สูงเกินไปจนเป็นเหตุให้ท่อระเบิดได้

รองผู้ว่าการการประปานครหลวง ยังได้แสดงความเป็นห่วงผู้ใช้น้ำในช่วงนี้ว่า ควรหมั่นตรวจสอบระบบท่อภายในบ้านของตนเองด้วย รวมถึงเครื่องสุขภัณฑ์ที่อาจจะชำรุด เช่น ลูกลอยค้าง ซีลยางในชักโครงชำรุด จนเป็นเหตุให้น้ำประปารั่วไหลได้ง่าย และเป็นการรั่วไหลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำสูญเสียไปมากกว่าที่ใช้จริงเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นหากพบว่าชำรุดควรรีบซ่อมโดยด่วน มิฉะนั้นจะเป็นเหตุให้ผู้ใช้น้ำต้องจ่ายค่าน้ำแพงโดยไม่จำเป็น ในกรณีที่สงสัยว่าอาจเกิดท่อรั่วภายใน สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองง่ายๆดังนี้คือ ปิดการใช้น้ำทุกอย่างภายในบ้าน และไปตรวจดูที่มาตรวัดน้ำ หากมาตรวัดน้ำไม่เดินก็แสดงว่าไม่มีท่อรั่วภายใน แต่หากมีการเคลื่อนไหวของดอกจันสีแดงหรือตัวเลขที่หน้าปัดมาตรวัดน้ำอยู่ตลอดเวลา ก็แสดงว่ามีท่อรั่วเกิดขึ้นแล้ว สามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำได้ที่ call center กปน. โทร. 1125 ตลอด 24 ชั่วโมง

4.สธ.ตีแผ่ในรอบ 24 ปี เอดส์คร่าชีวิตคนไทยเกือบแสนคน

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าววันนี้ (18 ม.ค.) ถึงสถานการณ์โรคเอดส์ของไทยว่า ตั้งแต่ พ.ศ.2527 จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2551 รวม 24 ปี สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คาดว่า มีผู้ติดเชื้อประมาณ 1,200,000 คน มีผู้ป่วยโรคเอดส์สะสมทั้งหมด 337,989 คน เป็นชายมากกว่าหญิงในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 เสียชีวิตไปแล้ว 92,111 คน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ป่วยทั้งหมด
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์มีทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะข้าราชการ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีการศึกษา มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมค่อนข้างสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เป็นต้นมาจนถึง30 ก.ย. 2551 มีข้าราชการป่วยจากโรคเอดส์สะสมทั้งหมด 10,278 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ของผู้ป่วยโรคเอดส์ทั้งหมดเป็นชาย 9,043 ราย หญิง 1,235 ราย เพศชายป่วยสูงกว่าเพศหญิงในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 เสียชีวิตไปแล้ว 2,448 ราย โดยผู้ป่วย 1 ใน 3 เป็นกลุ่มข้าราชการพลเรือนอีกประมาณ 1 ใน 10 เป็นทหาร ตำรวจ สาเหตุใหญ่ของการติดเชื้อเอดส์ เกือบร้อยละ 90 เกิดมาจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า ข้าราชการที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ร้อยละ 63.8 อายุระหว่าง 30-44 ปี มากที่สุดคือ อายุ 30-34 ปี พบร้อยละ 24 ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 61 แต่งงานแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รับรายงานผู้ป่วยเอดส์ที่เป็นข้าราชการรายแรกเมื่อ พ.ศ. 2530 มีรายงานป่วยสูงสุด 940 ราย ในปี 2539 หลังจากนั้น เริ่มลดลงอย่างช้าๆ สำหรับในปี 2551 ตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือนก.ย.มีรายงานผู้ป่วย 303 ราย จังหวัดที่มีข้าราชการป่วยเป็นโรคเอดส์สะสมสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 1,622 ราย ส่วนต่างจังหวัดพบมากที่สุด 5 จังหวัดแรกคือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา นนทบุรี และชลบุรี
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโรคฉวยโอกาสที่มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคเอดส์ว่า ที่พบมากที่สุดทุกกลุ่ม คือ วัณโรคปอด โดยพบ 1 ใน 5 ของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ในปี 2552 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งป้องกันโดยจะเน้นการตรวจหาเชื้อวัณโรคและรักษาควบคู่กับยาต้านไวรัสเอดส์ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์มีสุขภาพแข็งแรง สามารถทำงานได้เหมือนคนปกติทั่วไป

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

วันเสาร์, มกราคม 17, 2552

อดิศรเตรียมปล่อยหมัดเด็ดแฉทหารเชิงลึกหน้าจอดีทีวี


วันนี้ (17 ม.ค.) นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ดีทีวี กล่าวถึงความพร้อมในการออกอากาศ ว่า ในวันที่ 19 ม.ค. นี้ทีมงานจะทดลองออกอากาศตั้งแต่ 06.00 น. ผ่านสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งตนจะจัดรายการ “คุยกับอดิศร” ตั้งแต่เวลา14.00-15.00 น. โดยเนื้อหาจะพูดถึงหลักการประชาธิปไตย ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ เช่น เรื่องการตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ไม่ชอบธรรม และในอนาคตจะเปิดข้อมูลที่ทหารมาแทรกแซงการเมืองในเชิงลึก เพราะขณะนี้ตนมีข้อมูลจากข้าราชประจำและคณะกรรมาธิการการทหารส่งมาเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าจะนำเสนอให้ประชาชนรับทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จะจัดรายการสนทนาธรรมทางดีทีวี เพราะความสัมพันธ์ของพระพยอมกับขบวนการเสื้อแดงเครือข่ายระบอบทักษิณมีความใกล้ชิดกันมาก่อน โดยมาถึงวันนี้ก็ชัดเจนดีถือว่าเป็นการเปิดหน้าไม่ต้องซุ่มซ่อน หรือลับลวงพรางทำให้ประชาชนเห็นว่าใครเป็นใครและคิดอะไร

ส่วนที่พระพยอมระบุว่ารัฐบาลเป็นลูกหนี้พันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นความจริงเพราะพันธมิตรฯ ไม่เคยไปทวงบุญทวงคุณจากรัฐบาล พวกเราต่อสู้อย่างยืดเยื้อเพื่อเอาการเมืองออกมาจากระบอบทักษิณคืนสู่ประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขาพระวิหาร เรื่องการทวงคืนรัฐวิสาหกิจ ทรัพย์สินของแผ่นดินที่ถูกโกงไป การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การเมืองใหม่ ฯลฯ

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนการพูดจาพาดพิงพระพยอมในเวทีพันธมิตรฯ นั้นก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของท่านเป็นบางครั้งเท่านั้น ซึ่งท่านก็ ในบางสถานการณ์ทำให้สังคมเข้าใจผิดและเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่

"ผมเป็นห่วงพระพยอมท่านเป็นพระผู้ใหญ่ ท่านมีสิทธิที่จะพูดเรื่องการเมือง แต่ท่านต้องไม่พูดเท็จหรือพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะท่านเป็นพระห่มผ้าเหลือง และท่านก็คงทราบดีว่าผู้ที่ครองตนในเพศบรรพชิตพูดจาสองแง่สองง่ามก็ผิดศีลหรือเข้าข่ายมุสาได้เช่นกัน" ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว

วันศุกร์, มกราคม 16, 2552

รายงานข่าว

หุ้นปลายสัปดาห์ปิดที่ 435.20 จุดบวก 8.94 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำวันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2552 ปิดที่ 435.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 7,112.76 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีราคาปิดเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 251 หลักทรัพย์ ลดลง 65 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 74 หลักทรัพย์
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุด ประกอบด้วย บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน),บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

แกนนำนปช.หนีนอกประเทศ เผย1,500เว็บหมิ่นเบื้องสูง

พล. ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าววันนี้ (16 ม.ค.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งสำนวนฟ้องไปยังพนักงานอัยการแล้ว 9 คดี เหลืออีก 8 คดี อยู่ในระหว่างดำเนินการ ยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคดี ไม่มีการเลือกข้าง ส่วนนายสุชาติ นาคบางไทร หรือ วราวุธ ฐานังกรณ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช. ) ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ล่าสุดจากการตรวจจับการใช้โทรศัพท์ พบว่าเจ้าตัวไม่อยู่ในประเทศไทย

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวต่อถึงการจัดการเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า จากการประสานข้อมูลตรวจสอบร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พบมีเว็บไซต์เข้าข่ายผิดกฎหมายทั้งสิ้น 1,000-1,500 เว็บไซต์ หน่วยงานหลักที่จะรับผิดชอบจัดการ คือ ตำรวจกองปราบปราม

ผู้ บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวปฏิเสธ กรณีมีการระบุว่า ตำรวจนครบาลดำเนินการล่ารายชื่อถอดถอนคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน กรณีไม่ยอมหยุดการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. 2551 เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลไปแล้ว ว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ทุกอย่าง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการชี้มูลความผิดใด ๆ มา

หวั่นไข่อภิสิทธิ์ราคาพุ่ง คนเสื้อแดงลั่นเลิกใช้ปา


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (16 ม.ค.) ว่า ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งซึ่งเรียกตัวเองว่ากลุ่มประชาธิปไตยสนามหลวง รวมตัวทำพิธีเผาพริกเผาเกลือขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐนตรี ระหว่างเป็นประธานงานวันครูประจำปี 2552 ที่หอประชุมคุรุสภานั้น กลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าว ได้ประกาศจะเลิกการปาไข่เนื่องจากเกรงจะทำให้ราคาไข่ไก่สูงขึ้นและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
มีรายงานว่า ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงระบุหากคนจำนวนมากที่ไม่ต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ใช้ไข่ไก่ขว้างปา จะส่งผลให้ราคาไข่ไก่สูงไปถึงฟองละ 10 บาท ซึ่งจะสร้างความเดือด ร้อนให้กับชาวบ้าน ดังนั้น จึงขอยกเลิกการปาไข่ แต่จะใช้วิธีการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งแทน และจะตามไปในทุกจุดที่นายอภิสิทธิ์ไป

ฟันธงธุรกิจโฆษณาหดตัว ทีวียังเจ๋ง-เว็บไซต์ดาวรุ่ง

วันนี้ (16 ม.ค.) มีรายงานว่า บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด วิเคราะห์สถานการณ์ธุรกิจโฆษณาว่า เป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ารวมในตลาดสูงมากถึง 80,000-90,000 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2544-2550 ที่อัตราเฉลี่ยร้อยละ 8.8 ต่อปี แต่หลังจากที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมโฆษณา เป็นอุตสาหกรรมอันดับแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากเป็นต้นทุนที่ลดได้ง่าย และเห็นผลที่ชัดเจนอย่างรวดเร็ว

รายงานระบุว่า ผู้ประกอบการแต่ละรายจึงพยายามใช้จ่ายงบโฆษณาให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเลือกใช้ช่องทางโฆษณาที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้จำนวนมาก และตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ส่งผลให้ตลาดรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาเติบโตในลักษณะที่ชะลอตัวลงในที่สุด จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปี 2551 ส่งผลต่อการใช้งบประมาณการโฆษณาที่มีอยู่อย่างจำกัดของผู้ประกอบการกลุ่ม สินค้าต่างๆ และมีผลต่อเนื่องมายังการเลือกใช้ช่องทางการโฆษณา ทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาตลอดทั้งปี 2551 มีอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 2.8 หรือมีมูลค่า 89,488 ล้านบาท เป็นปีแรกของอุตสาหกรรมโฆษณาที่มีอัตราการเติบโตที่หดตัวลง นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

รายงานระบุต่อว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2552 มูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาจะมีมูลค่าประมาณ 85,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2551 ราวร้อยละ 5 เนื่องจากการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของผู้ประกอบการก ลุ่มสินค้าต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะตัดงบประมาณลง โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มยานยนต์ มีการใช้งบประมาณการโฆษณาที่มีมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มสินค้าอื่น ๆ รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ และผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทข้ามชาติอีกหลายบริษัทก็คาดว่าจะตัดลดงบประมาณ ด้านการโฆษณาลงเช่นกัน เพราะเมื่อบริษัทแม่ในต่างประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจแล้ว ก็กระทบต่องบประมาณด้านการตลาดของบริษัทลูกในประเทศไทยด้วย

รายงานระบุด้วยว่า สื่อโทรทัศน์จะยังคงมีสัดส่วนการโฆษณามากที่สุดและน่าจะขยาย ตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต สำหรับสื่อที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในปี 2552 คือ สื่อกลางแจ้งที่มีแนวโน้มว่าจะหดตัวรุนแรง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยใช้เวลานอกบ้านมากกว่าอยู่ในบ้าน ปรับเปลี่ยนเป็นใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น รวมทั้งลูกค้าหลักของสื่อกลางแจ้ง เช่น ผู้ประกอบการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มยานยนต์ ก็มีแนวโน้มว่าจะลดการโฆษณาลงอีกด้วย ส่วนสื่อโฆษณาที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือ สื่อดิจิตอล โดยเฉพาะในเว็บไซต์ เว็บบอร์ด และอีเมล ที่ผู้บริโภคลงความเห็นว่าเป็นสื่อที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่น ๆ




ชะลอแอลพีจี-เอ็นจีวี เบนซิน-โซฮอล์เพิ่ม 80 สต.

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรม การนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันนี้ (16 ม.ค.) ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า กพช. มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีออกไปอย่าไม่มีกำหนดเนื่องไม่ต้องการให้ประชาชนมีภาระเพิ่มขึ้นท่ามกลางวิกฤษเศรษฐกิจ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายขึ้นราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 80 สตางค์/ลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) ส่วนดีเซลยังคงราคาเดิม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวลดลงอย่างมากจนแตะระดับ 33.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ก่อนปิดระดับที่ 35.40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยนักลงทุนยังกังวลกับเศรษฐกิจโลกที่ทรุดหนักกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ต้องได้รับการเยียวยาอีกครั้งโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือ อีก 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ลดกำลังการผลิตทำให้มีสต็อคน้ำมันเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดลอนดอน น้ำมันดิบดูไบ ตลาดเอเชีย กลับเคลื่อนไหวสวนทางกัน โดยราคาอยู่ที่ระดับ 45-47 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันของประเทศอินโดนีเซียที่มีสูง ในขณะที่โรงกลั่นในภูมิภาคอยู่ระหว่างปิดทำการ เพื่อทำการซ่อมแซมและคาดว่าอาจเห็นการปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ในระยะอันใกล้นี้อีก

วันพฤหัสบดี, มกราคม 15, 2552

จับหนุ่มช่างสัก'คู่กิ๊ก' ฆ่าแหม่ม โมโหชอบหึงหวง


กรณีนางแอสทริส อัล แอสซาด ชวาเนอร์ อายุ 45 ปี ชาวเยอรมัน ถูกฆ่าบีบคอตายอนาถทิ้งศพเปลือยท่อนบนริมชายหาดบ้านในวก ใกล้ท่าเทียบเรือบริษัทส่งเสริม จำกัด หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์- ธานี เจ้าหน้าที่พบศพเมื่อเช้าวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นสงสัยฆาตกรหื่นลากตัวเหยื่อไปพยายามจะข่มขืน แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืนเลยถูกฆ่าทิ้ง หลังพบศพตำรวจระดมกำลังคลี่คลายคดีเต็มที่ เพราะเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว
ความคืบหน้า เมื่อสายวันที่ 12 ม.ค. พ.ต.อ.จรูญ อุชุภาพ ผกก.สภ.เกาะพะงัน พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ ทรัพย์มี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุจิน รักบำรุง รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.งาน 5 กก.5 บก.ป. และตำรวจ ชุดสืบสวนภาค 8 บุกคุมตัวนายทิวัตต์ หรืออู๊ด เกษมโภค หรือนายชัยรัตน์ ตันติสิทธิโชค อายุ 28 ปี อาชีพช่างสักยันต์ประจำร้านแทตทูคลับ ถนนท่าเรือ ต.เกาะพะงัน บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 100/206 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยรวบตัวได้ที่ร้าน หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าบีบคอแหม่มสาวชาวเยอรมัน เนื่องจากมีพยานหลายปากให้การยืนยันว่า พบเห็นนายทิวัตต์อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เกาะพะงัน
หลังถูกสอบเค้นอย่างหนักหลายชั่วโมง ในที่สุดนายทิวัตต์ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าแหม่มชาวเยอรมันด้วยการบีบคอจริง พร้อมให้รายละเอียดว่า รู้จักกับผู้ตายหลังเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะพะงันหลายครั้ง โดยผู้ตายไปเรียนสักยันต์ร้านที่ตนทำงานด้วย กระทั่งคบหาจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ภายหลังตนพยายามตีตัวออกห่าง เนื่องจากผู้ตายแสดงอาการหึงหวงอย่างออกหน้าออกตา และมักไม่พอใจทุกครั้งที่ตนไปพูดคุยกับหญิงสาวชาวต่างชาติคนอื่น คืนเกิดเหตุผู้ตายมานั่งดื่มกินที่ร้านบาร์เบียร์ติดกับร้านที่ตนทำงานอยู่ ตนจึงแวะไปนั่งร่วมดื่มอยู่สักพัก ก่อนจะแยกตัวขี่รถ จยย.ไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้เพียงลำพัง
กระทั่งเวลาประมาณสี่ทุ่มเศษ ขณะขี่รถ จยย.กลับออกจากงานฟูลมูนปาร์ตี้ ผ่านหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น บริเวณท่าเรือท้องศาลา พบผู้ตายเดินอยู่หน้าร้านเพียง ลำพัง จึงจอดรับพานั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ไปจอดริมชายหาดที่เกิดเหตุ นั่งพูดคุยเคลียร์ปัญหาเรื่องที่ผู้ตายชอบแสดงอาการหึงหวงต่อหน้าหญิงสาวชาวต่างชาติคนอื่นที่เป็นลูกค้าในร้าน จนทำให้เกิดการโต้เถียงกันรุนแรง ระหว่างนั้นผู้ตายได้ถอดเสื้อพยายามยั่วยวน แต่ตนไม่มีอารมณ์ด้วย ประกอบกับบันดาลโทสะใช้มือบีบคอจนตายแล้วลากศพไปฝังที่ชายหาด นำเสื้อของผู้ตายไปเผาทิ้งที่กองขยะบ้านใต้ ต.บ้านใต้ แล้วขี่รถ จยย.กลับมานอนที่บ้านพักหลังร้าน จนเช้าน้ำทะเลขึ้นทำให้ศพลอยขึ้นมา
หลังสอบสวนตำรวจนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมยึดรถปิกอัพมิตซูบิชิ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กฉ 7402 ภูเก็ต กับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีเทาดำ ทะเบียน ขษล 234 สุราษฎร์ธานี และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีดำคาดขาว ทะเบียน ขษล 232 สุราษฎร์ธานี อีกคัน ซึ่งเป็นรถที่สงสัยใช้เป็นยานพาหนะพาผู้ตายไปฆ่าทิ้ง นำส่งให้ตำรวจวิทยาการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนตรวจสอบประวัติพบว่านายทิวัตต์มีหมายจับของ สภ.เมืองภูเก็ต ลงวันที่ 29 ม.ค. 50 ข้อหาเสพสารระเหย กับข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

วันอาทิตย์, มกราคม 11, 2552

'คุณชาย'ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. พร้อมทำหน้าที่ให้กับชาติ


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (11 ม.ค.) ว่าตามที่สวนดุสิตโพล (เอ็กซิท) เปิดผลผู้ที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จากกลุ่มตัวอย่าง 15,780 คน พบว่า อันดับ 1 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร 46.75% อันดับ 2 ยุรนันท์ ภมรมนตรี 26.92% อันดับ 3 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 18.50% อันดับ 4 แก้วสรร อติโพธิ 6.37% นั้น

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามผลสำรวจจากโพลนั้น ยังไงก็คือโพล ขอให้มีการนับคะแนนก่อนให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้ผลขอเอ็กซิทโพลแม่นยำจริง ซึ่งยังไม่อยากที่จะบอกออก และไม่ว่าผลการนับคะแนนออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นส่ิงที่บอกได้ว่าพี่น้องประชาชนในความไว้วางใจ ซึ่งต้องขอกราบขอบคุณพี่น้องชาวกทม. ทุกท่าน ในการเลือกตั้งครั้งนี้

“ส่วนผู้ที่ไม่ได้ให้คะแนนเสียงกับ ก็ต้องกราบเรียนยืนยันว่า ถ้าผมได้รับความไว้วางใจ จากคะแนนที่เป็นจริง ผมจะปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ว่าฯ กทม. ของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกเพศทุกวัย ทุชาติ ทุกศาสนา และทุกสี” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่ทุกคนกรุณาไว้ใจ แต่จะมากพอถึงขนาดทำให้เป็นผู้ว่าฯ หรือไม่ต้องเคารพอีกทีหนึ่ง ก็ต้องขอลุ้นขอดู ครั้งที่แล้วที่ลงส.ส.เอ็กซิทโพลก็ชนะนะ แต่ผลนับเลือกตั้งออกมาก็แพ้ ยังมีโอกาสที่จะดูได้ ทุกโพล คือการประเมิน แล้วสุ่มตัวอย่าง ไม่สามารถบอกได้ว่าประชาชนทั้งหมดหรือยัง แต่ก็เคารพในการตัดสินใจของประชาชน

อย่างไรก็ดี ตามที่ลงในนามพรรคเพื่อไทย และใช้คนในพรรคช่วยหาเสียงนั้น ซึ่งผลโพลออกมามีคะแนนน้อยนั้นก็ไม่สามารถที่จะโทษพรรคฝ่ายเดียว แต่ผลที่ออกมาน่าจะมาจากหลายๆ ส่วน ในส่วนของพรรคก็คือเรื่องของพรรค ส่วนนโยบายก็เรื่องของนโยบาย ส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว ซึ่งการที่จะแพ้หรือชนะก็ไม่ได้

ด้านม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือคุณปลื้ม ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ผู้สมัครอิสระ กล่าวว่า ผลโพลที่ออกมาขึ้นอยู่กับประเด็นในการเปรียบเทียบประสบการณ์ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบในเชิงของอายุ ผู้สมัครท่านอื่นมีอายุมากกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้ามองในเรื่องของทีมงาน ในเรื่องของความพร้อม ทั้งที่ปรึกษา ทั้งรองผู้ว่าฯกทม. ตนเชื่อมั่นได้เลยว่าทีมของตนมีประสบการณ์มากกว่าแคนดิเคตคนอื่น เพียงแต่ประชาชนมองได้มองเห็นถึงตรงนั้นหรือไม่ ซึ่งถ้ามองเห็นเพียงประสบการณ์ของตน โดยไม่เห็นประสบการณ์ของผู้อื่น

“จะยังไม่ประกาศความพ่ายแพ้ จะขอดูผลคะแนนก่อน ซึ่งตัดสินใจตอนนี้ค่อนข้างเร็ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะขอรับใช้ประชาชนทุกๆ คนที่ออกมาเลือกตั้งในครั้งนี้ ถ้าไม่ใช้วันนี้ก็เป็นในอนาคต” คุณปลื้ม กล่าว

นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพใหม่ กล่าวว่า ตามผลโพลเป็นที่น่างงมาก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผลคะแนนทั้งหมดก็อยู่ในหีบแล้ว อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 หลายฝ่ายมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นช่วงขาขึ้น แต่ยังมีอยู่ส่ิงหน้าที่มองว่าไม่ถูกคือ ทำไมประชาชนยังเลือกพรรคประชสาธิปัตย์ ในเมืองครั้งที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องหมดวาระไปก็มาจากพรรคประชาธิปัตย์ หากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มาเชิญไปร่วมทีมงานนั้น ก็คงต้องปฏิเสธ เพราะยังมีงานที่จะต้องทำอยู่ แต่หากเป็นจ๊อบๆ ไป ซึ่งต้องสอดคล้องกับนโยบายส่วนตัวด้วยนั้น ก็อาจจะร่วมงานด้วย เพราะถือเป็นการทำงานให้คนกรุงเทพฯ ซึ่งเรียกว่า รับทำงานให้ ไม่ใช่ร่วมทีม

วันเสาร์, มกราคม 10, 2552

วันเด็ก

วันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรี สำหรับงานวันเด็กแห่งชาติในเมืองไทยครั้งแรกนั้น จัดขึ้นในวันจันทร์แรก ของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ตามคำเชิญชวนขององค์การสหพันธ์ เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก และเพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาท อันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ และได้จัดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี จนถึง พ.ศ. 2506 จึงมีความคิดว่าควรจะเปลี่ยนไปจัดงานวันเด็กในวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมเนื่องจากเห็นว่า เป็นช่วงที่พ้นจากฤดูฝนมาแล้ว และเป็นวันหยุดราชการทำให้เกิด ความสะดวกด้วยประการทั้งปวง แต่ในปีถัดมา คือปี พ.ศ. 2507 ไม่สามารถจัดงานวันเด็กได้ทัน จึงได้เริ่มจัดในปี พ.ศ. 2508 ซึ่งถือเอาวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมเป็นวันเด็กแห่งชาติมาจนถึงปัจจุบันนี้

คำขวัญวันเด็ก เป็น คำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล ป.พิบูลสงครามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจสำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ (ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ) นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็กจึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อๆมา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้คำขวัญวันเด็กตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

พ.ศ. 2499 - จอมพล ป.พิบูลสงคราม จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม พ.ศ. 2502 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า พ.ศ. 2503 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด พ.ศ. 2504 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย พ.ศ. 2505 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด พ.ศ. 2506 - จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด พ.ศ. 2507 ไม่มีคำขวัญ เนื่องจากงดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2508 - จอมพล ถนอม กิตติขจร เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี พ.ศ. 2509 - จอมพล ถนอม กิตติขจร เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี พ.ศ. 2510 - จอมพล ถนอม กิตติขจร อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย พ.ศ. 2511 - จอมพล ถนอม กิตติขจร ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง พ.ศ. 2512 - จอมพล ถนอม กิตติขจร รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ พ.ศ. 2513 - จอมพล ถนอม กิตติขจร เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส พ.ศ. 2514 - จอมพล ถนอม กิตติขจร ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ พ.ศ. 2515 - จอมพล ถนอม กิตติขจร เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ พ.ศ. 2516 - จอมพล ถนอม กิตติขจร เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ พ.ศ. 2517 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ สามัคคีคือพลัง พ.ศ. 2518 - นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี พ.ศ. 2519 - หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้ พ.ศ. 2520 - นายธานินทร์ กรัยวิเชียร รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย พ.ศ. 2521 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ พ.ศ. 2522 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เด็กไทยคือหัวใจของชาติ พ.ศ. 2523 - พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย พ.ศ. 2524 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม พ.ศ. 2525 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2526 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม พ.ศ. 2527 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา พ.ศ. 2528 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม พ.ศ. 2529 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ. 2530 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ. 2531 - พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ. 2532 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ. 2533 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม พ.ศ. 2534 - พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา พ.ศ. 2535 - นายอานันท์ ปันยารชุน สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม พ.ศ. 2536 - นายชวน หลีกภัย ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2537 - นายชวน หลีกภัย ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2538 - นายชวน หลีกภัย สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2539 - นายบรรหาร ศิลปอาชา มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด พ.ศ. 2540 - พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด พ.ศ. 2541 - นายชวน หลีกภัย ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย พ.ศ. 2542 - นายชวน หลีกภัย ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย พ.ศ. 2543 - นายชวน หลีกภัย มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย พ.ศ. 2544 - นายชวน หลีกภัย มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย พ.ศ. 2545 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส พ.ศ. 2546 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี พ.ศ. 2547 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน พ.ศ. 2548 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด พ.ศ. 2549 - พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด พ.ศ. 2550 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข พ.ศ. 2551 - พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ สามัคคี มีวินัย ใฝ่ความรู้ เชิดชูคุณธรรม พ.ศ. 2552 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี

วันเสาร์, มกราคม 03, 2552

ศาลปกครองแจงยกเลิกคำสั่ง คุ้มครองซานติก้าตั้งแต่ปี 47


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (3 ม.ค.) ว่า จากกรณีที่ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์กรณีซานติก้า ผับ ย่านเอกมัย เกิดเพลิงไหม้ ว่า จากการตรวจสอบพบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เคยทำเรื่องขอใบอนุญาตเมื่อปี 2547 แต่สถานที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จดีจึงไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ทำให้ทางร้านยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เปิดกิจการได้
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.52 นายสุชาติ เวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ทำหนังสือชี้แจงผ่านสื่อมวลชนว่า ขณะนี้มีข่าวจากผู้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในทำนองที่ชวนให้สังคมเข้าใจว่าศาลปกครองมีส่วนในการทำให้เกิดความเสียหายกรณีซานติก้าผับเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ด้วย โดยได้มีการให้ข่าวในทำนองว่า อาคารซานติก้าผับสร้างไม่ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดรวมทั้งขณะยื่นขออนุญาต อาคารที่ยื่นขอก็ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ และอยู่นอกพื้นที่อนุญาตให้จัดตั้งสถานบริการ (โซนนิ่ง) ดังนั้นตำรวจจึงไม่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิง แต่ต่อมาผู้ประกอบการได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองและศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ประกอบการเปิดดำเนินกิจการต่อไปได้จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้และมีคนเสียชีวิตจำนวนมากนั้น
สำนักงานศาลปกครอง ขอชี้แจงว่าผู้ประกอบการ ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 17 พ.ค.47 โดยอ้างว่าได้ยื่นขออนุญาตจัดตั้งสถานบันเทิงตามเงื่อนไขของกฎหมายต่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ แต่ ผกก. สน.ทองหล่อ ผู้ถูกฟ้อง ละเลยล่าช้าไม่ออกใบอนุญาตจัดตั้งสถานบริการ ทำให้ผู้ประกอบการถูกจับกุมในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ประกอบการจึงขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งต่อมาวันที่ 2 ก.ค.47 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่ภายหลังมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งเมื่อวันที่ 14 ต.ค.47 ไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จึงได้ยกเลิกเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลาง
ส่วนคดีที่ยื่นฟ้องนั้น ต่อมาวันที่ 7 มี.ค.50 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาให้ ผกก.สน.ทองหล่อ กับพวก ผู้ถูกฟ้อง แพ้คดี โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ผู้ประกอบการได้ยื่นแจ้งตั้งสถานบริการโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ด้วยเหตุผลว่า 1.ผู้ขออนุญาตจัดตั้งสถานบริการ มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 4. คืออายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียบกพร่องในศีลธรรมอันดี ไม่เป็นผู้วิกลจริต ไม่เป็นโรคติดต่อหรือไม่เป็นผู้ต้องรับโทษในความผิดเกี่ยวกับเพศ เป็นต้น
2.สถานที่ตั้งของสถานบริการไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 7 ซึ่งห้ามตั้งสถานบริการที่อยู่ใกล้ชิดวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สโมสรเยาวชน หอพัก และไม่อยู่ในย่านที่ประชาชนอยู่อาศัยอันจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ รวมทั้งมีทางถ่ายเทอากาศสะดวก และ 3. ผู้ประกอบการยื่นเอกสารหลักฐานครบถ้วนตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2525) ออกตามความในพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509
นอกจากนี้คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ยังเห็นว่า ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ขณะยื่นแจ้งตั้งสถานบริการดังกล่าว ต้องมีอาคารสถานที่อันเป็นที่ตั้งของสถานบริการที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพราะในการยื่นขออนุญาต ผู้ประกอบการต้องยื่นแบบแปลนและผังก่อสร้างอาคารที่ผ่านความเห็นชอบของเจ้าหน้าที่โยธา กรุงเทพมหานคร แนบให้ตำรวจพิจารณาอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ตำรวจแจ้งว่าซานติก้าผับ อยู่นอกเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการกรุงเทพมหานคร (โซนนิ่ง) ศาลเห็นว่า ผู้ประกอบการได้ยื่นคำร้องขอแจ้งการตั้งสถานบริการต่อเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.46 ซึ่งเป็นวันที่ก่อนพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2546 จะใช้บังคับวันที่ 29 ธ.ค.46 จึงสามารถขอให้อนุญาตจัดตั้งได้ ดังนั้นการใช้ดุลพินิจในการออกคำสั่งไม่อนุญาตให้ตั้งสถานบริการดังกล่าวของตำรวจ ผู้ถูกฟ้องจึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ต่อมาวันที่ 19 เม.ย.50 ฝ่ายตำรวจ ผู้ถูกฟ้อง ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ นายสุชาติ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ยังชี้แจงด้วยว่า ความถูกหรือผิดตามแบบของอาคารซานติก้าผับ เป็นเรื่องของตำรวจและเจ้าหน้าที่โยธาของกรุงเทพมหานครที่จะต้องวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับศาลปกครองแต่ประการใด เพราะการพิจารณาของศาลเป็นเรื่องกรณีที่ตำรวจละเลยล่าช้าในการออกใบอนุญาตสถานบริการซานติก้า เท่านั้น และไม่มีประเด็นเรื่องความถูกผิดตามกฎหมายของแบบอาคารซานติก้าผับ มาให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวอย่างที่เป็นข่าวแต่ประการใด โดยเป็นไปไม่ได้ที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาในเรื่องที่ผิดกฎหมาย การให้ข่าวในทำนองชวนให้สังคมเข้าใจว่าศาลปกครองมีส่วนร่วมเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดเหตุร้ายครั้งนี้ อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทศาลได้

วันศุกร์, มกราคม 02, 2552

ปมพลุเผาผับไฮโซ ย่าง 59 ศพ หลังนาทีเคาต์ดาวน์

บรรยากาศความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของเมืองไทย กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมสยดสยองใจกลางกรุง ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงไฮโซชื่อดังย่านเอกมัย “ซานติก้า ผับ” ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยามราตรีนับพันคนต้องวิ่งหนีตายกันอลหม่าน มีเหยื่อเสียชีวิตถูกไฟคลอกและเหยียบกันดับกว่าครึ่งร้อย บาดเจ็บอีก 200 กว่าชีวิต
เพลิงสยองรับปีใหม่
ไฟไหม้ผับดังรับปีใหม่คลอกนักเที่ยวตายสยองหลายสิบศพ เปิดเผยเมื่อเที่ยงคืนเศษ วันที่ 1 ม.ค.2552 ร.ต.ท.สุชิน พงษ์คำพันธ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน. ทองหล่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านซานติก้า ผับ สถานบันเทิงระดับไฮโซชื่อดัง ตั้งอยู่ระหว่างเอกมัยซอย 9 กับซอย 11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และประสานขอรถดับเพลิง สำนักบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 คันรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.โชคดี ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ. สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
เผานักท่องราตรีทั้งเป็น
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 2 ชั้น เจาะเป็นชั้นใต้ดินอีกชั้น มีกลุ่มควันและเปลวเพลิงโหมลุกอย่างรุนแรงใน ตัวอาคาร นักเที่ยวชายหญิงทั้งชาวไทยและต่างประเทศนับพันคนวิ่งหนีตายออกมาอย่างชุลมุน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องระงมขอความช่วยเหลือจากบรรดานักท่องราตรีอีกบางส่วนที่ยังติดอยู่ภายในผับ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยต้องเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง พร้อมเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในภายอาคารอย่างทุลักทุเลทยอยกันนำส่งโรงพยาบาล แต่เนื่องจากประตูทางออกแคบ ตัวอาคารโดยรวมเป็นคอนกรีต หน้าต่างทำด้วยกระจกหนาอย่างดี ขณะที่เปลวไฟยิ่งลุกลามรวดเร็วไปทั่วตัวอาคารยากแก่การสกัดกั้น นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยสำลักควันขาดใจตายก่อนถูกไฟคลอกเกรียมไปต่อหน้าต่อตาหน่วยกู้ภัยที่ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน กว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะควบคุมเพลิงจนสงบต้องใช้เวลานานถึง 1 ชั่วโมง ผลาญตัวอาคารวอดทั้งหลัง
พบถูกคลอกตายกองเป็นเบือ
เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าไปตรวจสอบด้านใน พบผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกนอนตายคากองเพลิงระเกะระกะเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ทับกันอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นชั้นใต้ดิน และประตูทางออกชั้น 1 จำนวนหลายสิบศพ เหยื่อเกือบทุกรายไหม้เกรียมหงิกหงอจนไม่สามารถแยกเพศได้ว่าเป็นชายหรือหญิง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต่างช่วยกำลังลำเลียงศพออกมากองอยู่ลานจอดรถ บริเวณด้านข้างผับรวมจำนวนทั้งหมด 53 ศพ สร้างความเศร้าสะเทือนใจแก่ผู้เห็นเหตุการณ์ไม่น้อย ส่วนผู้บาดเจ็บในเหตุไฟนรกต้องรับปีใหม่ครั้งนี้ยังมีอีกราว 200 กว่าคน พักรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลหลายแห่งทั่ว กทม.
แคชเชียร์สาวเผยนาทีระทึก
น.ส.เกษราภรณ์ แจ้งนคร อายุ 31 ปี พนักงานแคชเชียร์ภายในร้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเข้าไปร่วมเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าและเลี้ยงอำลาร้านที่จะเปิดบริการเป็นวันสุดท้ายจำนวนนับพันคน มีดีเจ เพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนทัย และดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า ผู้จัดรายการวิทยุประจำคลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ แสดงอยู่บนเวที โดยโปรแกรมตอน 01.00 น. จะมีโจอี้ บอย เจ้าพ่อเพลงแร็พจะมาร่วมขึ้นเวทีด้วย จู่ๆก็เกิดเสียงเอฟเฟกต์ระเบิดขึ้นหน้าเวที เห็นประกายไฟพุ่งขึ้น ประกอบกับภายในร้านมีการนำวัสดุโฟมมาประดับตกแต่งเป็นจำนวนมาก ทำให้กลายเป็นเชื้อเพลิงติดลุกลามอย่างรวดเร็ว ลูกค้าพยายามช่วยกันดับแต่ไม่สำเร็จ จึงวิ่งหนีกันอลหม่าน คาดว่า ดีเจชื่อดังทั้งคู่น่าจะออกประตูหลังที่สำหรับศิลปินโดยเฉพาะ ส่วนตนก็หนีออกมาได้อย่างเฉียดเป็นเฉียดตาย
ต่างดิ้นรนเอาตัวรอด
นายสุทธิรักษ์ คุ้มสม เจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเผยนาทีวิกฤติชีวิตในกองเพลิงนรกว่า หลังรับแจ้งเหตุได้ใช้เวลาราว 20 นาทีเดินทางไปถึงพบควันไฟออกมาจากหน้าเคาน์เตอร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหน้าร้าน มีนักท่องเที่ยวต่างเบียดเสียดกันพยายามหนีออกมานอกร้านที่มีประตูทางออกแคบ หลายคนร้องขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ เนื่องจากกลุ่มควันหนาแน่น และเปลวเพลิงที่ร้อนระอุลุกลามอย่างรวดเร็ว มีคนตายอยู่หน้าประตูเป็นจำนวนมาก ทุกคนพากันดิ้นรนเอาตัวรอด บางคนหนีออกมาได้แล้วมาล้มลงด้านหน้า บางคนวิ่งออกมาโดยไม่มีเสื้อผ้า ผิวหนังพุพอง เพราะไฟเผาหมด ท่ามกลางเสียงกรีดร้องไห้ดังระงมกว่ารถดับเพลิงจะมาฉีดน้ำสกัดกินเวลานานนับชั่วโมง
แตกตื่นเหยียบกันชุลมุน
ด้าน นายชาติชาย อิ่มศิริ นักเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกที่แขนทั้ง 2 ข้าง พักรักษาตัวอยู่ รพ.คามิลเลี่ยน เล่านาทีระทึกว่า ไปเที่ยวฉลองปีใหม่ที่ผับกับเพื่อนรวม 5 คน โดยยืนอยู่โซนหน้าเวที ในขณะที่นักดนตรีกำลังเล่นเพลงอยู่นั้น ได้เกิดเหตุไฟลุกไหม้ขึ้นบนฝ้าเพดานเหนือเวทีแล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว ลูกค้าในร้านพากันตกใจแตกตื่นวิ่งหนีตายกันอลหม่านไปที่ประตูทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านข้าง กับด้านหน้าที่ตนออกมาได้ ช่วงนั้นมีคนแย่งกันเอาตัวรอด หลายคนตกบันไดไปอยู่ชั้นใต้ดินสำลักควันร้องกันลั่น เมื่อตนออกมาแล้วยังเห็นคนถูกไฟลวกและนอนสำลักควันอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันลำเลียงขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาลกันชุลมุนไปหมด
อภิสิทธิ์” ตรวจจุดเกิดเหตุ
ต่อมาเวลา 19.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่สถานบันเทิงซานติก้า ผับ พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. หลังจากก่อนหน้าได้แวะเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ รพ.คามิลเลียน โดยนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังนอนรักษาตัวอยู่กว่า 10 รายว่า วันนี้ต้องดูกฎหมายประกอบ รวมทั้งต้องดูสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพราะเท่าที่ทราบมีการนำพลุ ดอกไม้ไฟเข้าไปในร้าน ไม่ทราบว่าเอาเข้าไปได้อย่างไร มันผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องมาตรการในการป้องกันก็ต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น กทม.ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ที่สำนักงานเขตวัฒนา มีนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. เป็นหัวหน้าศูนย์ ส่วนกรณีที่มีความจำเป็นต้องส่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกลับบ้านนั้น ได้เตรียมความพร้อมเรื่องยานพาหนะไว้แล้ว เท่าที่ได้สอบถามไปก็ได้รับรายงานว่ามีการดับไฟอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ามีการนำพลุไฟเข้าไปได้อย่างไร
ชี้สภาพอาคารเสียหายมาก
นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผอ.เขตวัฒนา กล่าวว่า เขตได้ประกาศให้อาคารเป็นเขตอันตรายห้ามใช้อาคาร และจากการตรวจสอบพบว่าภายในเสียหายมาก หากได้ผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว จะต้องสั่งให้มีการรื้อถอนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป โดยจะต้องรื้อถอนภายใน 30 วัน หลังจากที่มีคำสั่ง สำหรับเจ้าของผู้ครอบครองอาคารขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนมือ ขายต่อหลายทอด ทราบเบื้องต้นว่าสัญญาเช่าได้หมดลงในวันที่ 31 ธ.ค. 51 คืนเกิดเหตุพอดี ซึ่งจะต้องตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง สำหรับเขตมีหน้าที่ดูแลในส่วนของ พ.ร.บ.อาคาร สั่งดำเนินคดีในส่วนของการใช้อาคาร การต่อเติมผิดประเภทงานกับทางสำนักการโยธาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในส่วนการขออนุญาตประกอบการเป็นสถานบันเทิงนั้นเป็นการขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงเหตุอัคคีภัยในสถานบริการซานติก้า ผับ ว่าที่ประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวต่อที่ประชุม มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย โทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ทางกรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ส่วน ปภ.จะประสาน กทม. ว่าต้องการการสนับสนุนอย่างไรที่เกี่ยวกับภารกิจของ ปภ. ที่เรื่องนี้กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และหลายฝ่ายต้องมานั่งพิจารณาว่าอุบัติเหตุร้ายแรงเพราะเหตุใด ทั้งจำนวนคนที่มากเกินขีดความสามารถของสถานบริการหรือไม่ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการรักษาความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดี ปภ. ได้ออกประกาศให้ซานติก้า ผับ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังโดยด่วนต่อไป
รถหรูลูกค้าจอดทิ้งเพียบ
ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ ภายในบริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงินยังพบมีเงินสดอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้รอส่งคืนให้กับเจ้าของ ส่วนลานจอดรถด้านหน้าผับ มีรถเก๋งหรูหลายคันจอดอยู่ยังไม่มีเจ้าของติดต่อรับคืน อาทิ รถเบนซ์ รุ่น อี 200 สีดำ ทะเบียน สส 567 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งโตโยต้าสปอร์ต รุ่นเอ็มอาร์เอส สีขาว หมายเลขทะเบียน ศว 300 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์ รุ่นอีโวรูชั่น สีขาว ทะเบียน ฌจ 9546 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ หากใครเป็นเจ้าของหรือญาติสามารถติดต่อรับรถคืนได้ที่ สน.ทองหล่อ โดยต้องเตรียมหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กทม.ระบุแบบก่อสร้างไม่ผิด
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุเบื้องต้น ไม่พบว่ามีการก่อสร้างผิด โดยได้ขออนุญาตก่อสร้างกับสำนักงานเขตวัฒนา ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ให้ผู้อำนวยการสำนักการโยธาเป็นประธาน ให้ได้ข้อสรุปภายใน 3 วัน สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต สำนักงานเขตวัฒนาจะเป็นศูนย์ประสานงานกับสำนักการโยธาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเจ้าของอาคารนั้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนมือมาหลายครั้ง
ผบ.ตร.ไม่เชื่อจะวางเพลิง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนกระแสข่าวว่าจะเป็นการวางเพลิงหลังหมดสัญญาหรือไม่นั้น คงไม่มีใครคิดจะทำขนาดนี้ เพราะมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และเท่าที่ตรวจสอบพบกิจการไม่ดี เจ้าของไม่ต่อสัญญาเจ้าของที่ดิน เพราะต้องการปิดกิจการเนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการลอบวางเพลิง ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ในศพที่ยังไม่ทราบชื่อจัดตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจพิสูจน์และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลร่วมกับ สน.ทองหล่อแล้ว
แฉเคยขอใบอนุญาตไม่ผ่าน
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของใบอนุญาตเปิดสถานบริการ พบว่าผับดังกล่าวเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2546 กองบัญชาการไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่โซนนิ่งสถานบริการ ปรากฏว่าเจ้าของได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเมื่อปี 2547 และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวสามารถดำเนินกิจการได้ ทำให้เรื่องใบอนุญาตถือว่าถูกต้อง เพราะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ส่วนเรื่องที่ตำรวจต้องเข้าไปจัดการดูแลเรื่องสถานบันเทิง สถานประกอบการที่ไม่ได้มาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ เรื่องนี้ตำรวจมีหน้าที่เพียงดูเรื่องใบอนุญาตเท่านั้น เรื่องตัวอาคารเป็นหน้าที่ของ กทม.
ยังไม่แจ้งข้อหาใคร
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 กล่าวว่า ทยอยสอบปากคำพยานไปแล้ว 100 กว่าปาก ส่วนใหญ่ยังรักษาตัวตามโรงพยาบาล เป็นพยานที่เป็นพนักงานของร้าน เท่าที่สอบทราบว่าเห็นไฟลุกจากยอดโดมร่วงตกลงมา พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด หากตรวจสอบพบความผิดจะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เรื่องนี้ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผิดที่เจ้าของเป็นคนทำ หรือผิดที่นักเที่ยวเป็นคนทำ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูอีกครั้ง คาดว่าประมาณ 2-3 สัปดาห์จะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้
เจ้าของผับนัดพบตำรวจแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสุข หรือเฮียขาว เสร็จสวัสดิ์ หุ้นส่วนใหญ่ของซานติก้า ผับ อยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วย โชคดีที่หนีออกมาได้ทัน แต่ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และได้ประสาน พ.ต.อ.นายตำรวจคนสนิทผ่านไปยัง พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อแล้วว่า ยินดีจะเดินทางเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนถึงเรื่องทั้งหมดในเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ม.ค.นี้
สรุปยอดนักเที่ยวตาย 59 ศพ
ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งโต๊ะรับแจ้งบุคคลสูญหาย โดยมีบรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิตและสูญหายทยอยเดินทางนำหลักฐานไปแจ้งความกันอย่างต่อเนื่อง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ มาคอยอำนวยความสะดวกในการรับแจ้งข้อมูลจากญาติของผู้สูญหายที่ไม่สามารถพิสูจน์ศพได้ ทั้งนี้ พ.ต.อ.นิธิ บรรฑุวงศ์ ผกก.กองพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เปิดเผยว่า ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬาฯ มี 30 ราย และโรงพยาบาลตำรวจอีก 28 ราย สามารถพิสูจน์ได้แล้วบางส่วน ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เนื่องจากศพไหม้เกรียมเกินไป ต้องตรวจดูว่าผู้ตายใส่เครื่องประดับอะไรบ้าง มีตำหนิรูปพรรณที่ไหน ญาติที่มาแจ้งต้องนำข้อมูลของผู้ตายมาให้มากที่สุด เช่นกรณีผู้ตายใส่ร็อกเกต หรือใส่สร้อยก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ข้อมูลที่สำคัญที่สุดคือข้อมูลทางดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ข้อมูลทางทันตกรรม ตอนนี้มี 28 ราย ที่ยังไม่ สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอยู่พิสูจน์ จนกว่าศพสุดท้ายจะถูกรับออกไป
คนเจ็บส่วนใหญ่สำลักควัน
ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารจักรพงษ์ รพ.จุฬาฯ รศ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแถลงว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น โรงพยาบาลรับผู้บาดเจ็บมารักษาตัวทั้งหมด 13 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยหนักที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด 5 ราย อาการทั่วไปอีก 7 ราย กลับบ้านได้ 1 ราย ทุกรายต้องให้ออกซิเจนช่วยระหว่างการรักษาตัว เพราะสำลักควัน คณะแพทย์ได้เจาะเลือดดูกระแสโลหิตว่ามีคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในเส้นเลือดมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ผู้บาดเจ็บบางรายยังมีบาดแผลถลอกตามร่างกายที่เกิดจากการดิ้นรนหนีออกมาจากผับ อีกพวกถูกไฟลวกตามตัว
สธ.เป็นเจ้าภาพดูแลคนเจ็บ
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ซานติก้าผับ เขตวัฒนา กทม. ว่า เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งชาวไทยและต่างชาติ 223 ราย เสียชีวิต 59 ราย อาการสาหัสนอนในไอซียู 13 ราย ได้กำชับให้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ให้การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บทุกคนอย่างเต็มที่และดีที่สุด ไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย และพร้อมประสานงานรับผู้บาดเจ็บมารักษาต่อในโรงพยาบาลในสังกัด ซึ่งมีหน่วยดูแลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้เป็นการเฉพาะคือ ที่ รพ.ราชวิถี และ รพ.นพรัตนราชธานี โดยกระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษ และมอบหมายให้ นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ดูแลติดตามอาการผู้บาดเจ็บ และประสานงานอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างใกล้ชิด
เผยชื่อเหยื่อสังเวยไฟนรก
พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้แล้วจำนวน 28 ศพ ได้แก่ นายสุพล เมฆไกรนายบุญญรัตน์ แสนเมืองชิน นายชาญวิทย์ วุฒิเลิศอนัน น.ส.รุ่งนภา ชัยประเสริฐ น.ส.ลีลาวดี วันเถิน นายเฉลิมชนม์ บุญพรม น.ส.สุมาลี เมฆทรัพย์ น.ส.แพรว อัยรา น.ส.กานธิดา วิโนทัย นายมีศักดิ์ แก้วละเอียด นายกริช ณราย์ นายกาญจน์ ไกรศรี น.ส.พรทิพา บัวมาก นายยศธร กุภาพันธ์ นายทราพล หวังทวีวงศ์ นายสมิท ยินดีธรรมากิจ นายต่อศักดิ์ อยู่โต นายสุรศักดิ์ สุวรรณวิเศษกุล นายอาทิตย์ เทพปฐมานุรักษ์ นายศุภกฤษณ์ พัฒนสิน น.ส.ปัญญา ไชยสิทธิ์ น.ส.วัลยา ซำกง นายจักรชัย น่วมเจริญ น.ส.อภิชญา สิริกมลรุ่งโรจน์ นายกษิดิส เหมือนเดช น.ส.จีรภัทร กลีบเมฆ Mr.TEO SZE SIONG สัญชาติสิงคโปร์ นายทิวากร ปิณฑะบุตร ส่วนศพที่เหลือเป็นผู้หญิงไม่ทราบชื่อ 20 ราย ชายไม่ทราบชื่อ 9 ราย ไม่ทราบเพศ จำนวน 2 ราย รวมทั้งสิ้น 59 ราย

พ่อแม่ร่ำไห้รับศพลูกชาย
นายสุชาติ สุวรรณวิเศษกุล พร้อมนางศิริขวัญ สุวรรณวิเศษกุล ภรรยา เดินทางไปรับศพนายสุรศักดิ์ สุวรรณวิเศษกุล อายุ 17 ปี ลูกชาย ที่เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนราชวินิตมัธยม ด้วยอาการที่โศกเศร้าก่อนจะเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกชายคนเล็กขอไปเที่ยวปีใหม่กับพี่สาวอีก 2 คน และกลุ่มเพื่อนที่ผับ หลังเกิดเหตุลูกสาว 2 คนรอดชีวิตออกมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตอนใกล้เวลาเที่ยงคืน เจ้าของผับนำพลุมาแจกให้ลูกค้า เพื่อนำไปใช้จุดช่วงเคาต์ดาวน์ข้ามศักราชใหม่ด้านหน้าผับ แต่บางกลุ่มกลับไปจุดเล่นข้างในผับ ไม่นานก็เกิดเพลิงลุกไหม้ตรงหน้าเวที ลูกค้าพากันวิ่งหนีกันทะลักออกมากันอลหม่าน โชคดีที่ลูกสาวทั้ง 2 คน อยู่นอกร้านจึงรอดตายหวุดหวิด แต่ต้องมาเสียลูกชายเพราะอยู่ด้านในออกมาไม่ได้
พ่อพระเอกหนัง “อหิงสา” ดับด้วย
ขณะเดียวกัน แจ๊ค-ปริวัตร์ อยู่โต พระเอกภาพยนตร์ เรื่องอหิงสา ค่ายอาวอง ต้องสูญเสียนายต่อศักดิ์ อยู่โต พ่อบังเกิดเกล้าจากเหตุการณ์เคาต์ดาวน์รับไฟนรกกลางกรุงครั้งนี้ด้วย เผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ยังทำใจไม่ได้ เพราะเพิ่งจะไปสวัสดีปีใหม่และมอบเงินให้กับพ่อแม่ จำนวนหนึ่ง ปกติพ่อ แม่ และตนจะไปปาร์ตี้ที่ซานติก้า ผับ บ่อยอยู่แล้ว พอดีช่วงปีใหม่ พ่ออยากไปเที่ยวกับแม่ สองคน ตนจึงไม่ได้ไปด้วย หลังจากเกิดเหตุ แม่กลับมาที่บ้าน เพราะคิดว่าพ่อจะกลับมาบ้านแล้ว เนื่องจากชุลมุนพลัดหลงกันในร้าน แต่ไม่พบจึงโทรศัพท์ไปตามโรงพยาบาล กระทั่งทราบข่าวร้ายว่า พ่อสำลักควันเสียชีวิตอยู่ รพ.จุฬาฯ แล้วรู้สึกตกใจและเสียใจมาก
ดีเจภูมิย้อนวินาทีระทึก
ดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า ดีเจประจำคลื่น 95.5 เวอร์จิ้นฮิตซ์ ที่รอดตายหลุดออกมาจากผับนรกอย่างหวุดหวิดระบายความรู้สึกว่า ใจหาย ไม่เคยเจอเหตุการณ์ แบบนี้มาก่อน คิดว่าไฟไหม้มันคงจะค่อยๆ ลาม แต่จริงๆ มันเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน โชคดีไม่อยู่ในที่แออัดขึ้นเวทีเสร็จก็เก็บตัวอยู่ในโซนออฟฟิศได้ยินคนบอกว่า ไฟไหม้ ยังคิดว่าเล็กๆ น่าจะดับได้ แต่กลับลุกลามใหญ่โตจึงชวนแฟนสาวและเพชรจ้าออกไปลานจอดรถ แค่ครึ่งนาที ก็มีควันที่โซนออฟฟิศกระจายมาด้านนอกลานจอดรถ เพชรจ้าเลยชวนขึ้นรถขับออกมาไม่นานก็เห็นผับลุกเป็นภูเขาไฟ ส่วนเพื่อนดาราที่ไปร่วมงานด้วยยังมี ลูกตาล-อาริษา วิลล์ เอเอ-พีรวัชร์ เหราปัตย์ น้ำนิ่ง-ไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย โชคดีที่กลับก่อน หลังจากผ่านเหตุการณ์รอดตายมาได้ก็คิดว่าจะรีบไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ทำบุญโลงศพที่วัดหัวลำโพง
คู่หู “เพชรจ้า” แทบช็อก
ส่วน ดีเจเพชรจ้า-วิเชียร์ กุศลมโนทัย คู่หูพิธีกรดีเจภูมิ ซึ่งรอดตายเช่นกันเผยว่า ไปเป็นพิธีกรในงานปาร์ตี้ คืนสุดท้ายของร้าน ช่วงเกิดเหตุ ไม่รู้เรื่องว่ามีไฟไหม้ เพราะกำลังเตรียมมุกกับเพื่อนดีเจอยู่ในห้องนักแสดง และเห็นว่างานใกล้จะหมดหน้าที่ของตนบนเวทีแล้วจึงขนสัมภาระต่างๆ ไปเก็บในรถ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเด็กในร้านตะโกนบอกไฟไหม้ มีพนักงานรักษาความปลอดภัยนำถังดับเพลิงไปฉีดสกัดแต่ไม่สำเร็จ เสี้ยวนาทีนั้นเห็นกลุ่ม ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เป็นช่วงที่ตนขยับรถออกมาแล้ว เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์บอกมีคนยิงพลุในร้านจนเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น เห็นคนวิ่งกรูออกจากร้านต่างร้องห่ม ร้องไห้ กรีดร้องโหยหวน รถหลายคันบีบแตรไล่ ตอนนั้นรู้สึกช็อกและอึ้งไปเหมือนกัน มีความรู้สึกเหมือนนั่งดูหนังฝรั่ง มีกลุ่มควันดำทะมึน ทำให้คิดว่าจุดจบของคนตายใกล้แค่ นิดเดียว รู้สึกขยาดกับการไปเที่ยวผับเหมือนกัน
“โจอี้ บอย” เฉี่ยวหวุดหวิด
ส่วน โจอี้ บอย เจ้าพ่อเพลงแร็พชื่อดัง กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าจะต้องไปเล่นคอนเสิร์ตที่ผับประมาณตี 2 หลังมีคิวเล่นคอนเสิร์ตเคาต์ดาวน์ที่ห้างเซ็นทรัล เวิลด์ ขณะเกิดเพลิงไหม้กำลังนั่งรถตู้ไปพอดี เมื่อทราบข่าวในวงนั่งเหวอกันหมด ต่างไม่เชื่อ กระทั่งเห็นรถดับเพลิงแซงหน้าไป และมีน้องโทรศัพท์ มาบอกว่าอย่าเข้ามา เพราะมีคนบาดเจ็บเยอะมาก รู้สึกช็อกไม่อยากจะเชื่อเป็นเรื่องจริง มันใกล้ตัวมาก ตอนเย็นตนกับทีมงานเพิ่งเข้าไปที่ร้านเพื่อเช็กระบบเครื่องเสียง ตนเล่นคอนเสิร์ตที่นี่บ่อยมากถึงต้องมาเล่นอำลาเป็นคืนสุดท้าย ไม่เคยคาดคิดจะเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้น หลังรู้เรื่องก็กลัวที่บ้านจะเป็นห่วงจึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ก่อนเพราะไม่อยากให้เปิดทีวีดูข่าวแล้วตกใจจนช็อกไปก่อน
เตรียมทำบุญอุทิศแฟนเพลง
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พระดีอะไรถึงรอดตายหวุดหวิด โจอี้ บอย ตอบว่า เป็นเรื่องความบังเอิญมากกว่า ถ้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงก็เชื่อว่าน่าจะรอดออกมาได้ เพราะทางเข้า-ออกของศิลปินจะมีอยู่ด้านหลัง พอเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็รู้สึกตกใจ เสียใจ เมื่อรู้ข่าวรู้ว่ามีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สมาชิกได้ตัดสินใจไปทำบุญที่วัดหัวลำโพง เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้ เสียชีวิต ส่วนคนที่บาดเจ็บก็ขอให้หายเร็วๆ เชื่อว่า ในนั้นจะต้องมีแฟนเพลงของโจอี้ บอย ที่มาดูพวกตนเล่นกันเยอะ โปรแกรมที่ตั้งใจไปเที่ยวกับเพื่อนสมาชิกในกลุ่มของตนก็มีอันยกเลิกไปเพราะยังสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่มีจิตใจไปเที่ยวฉลองปีใหม่แล้ว
“ลูกตาล” ออกก่อนแค่ 10 นาที
ลูกตาล-อาริษา วิลล์ สาวเซ็กซี่ค่ายดัชชี่ เป็นอีกหนึ่งดาราที่รอดชีวิตจากเหตุเพลิงนรกซานติก้า ผับ เปิดใจว่า ไปเที่ยวผับ เพราะเอเอ-พิรวัชร์ เหราปัตย์ แฟนหนุ่มที่รู้จักกับดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า จึงตั้งใจไปเคาต์ดาวน์ที่ผับแห่งนี้ก่อนกลับมาปาร์ตี้กับครอบครัวที่บ้าน โชคดีที่ออกจากผับก่อนเกิดเหตุเพียงแค่ 10 นาที พอทราบข่าวไม่อยากจะเชื่อเพราะเพิ่งออกจากผับกันไม่นาน ถ้าคืนนั้นตนยื้อกันอยู่อีกนิดเดียวคงไม่รอด เกือบไปแล้วเหมือนกัน ยอมรับว่าใจหาย ตอนดูข่าวรู้สึกช็อกและขนลุก ภาพที่เราไปเที่ยวยังติดตา บรรยากาศคนกำลังสนุกสนาน ทำให้รู้สึกตัวเองโชคดีที่กลับออกมาก่อน และเป็นอะไรที่แย่มากกับคืนต้อนรับปีใหม่แบบนี้
พลิกปูมตำนานผับไฮโซ
สำหรับซานติก้า ผับ ถือเป็นแหล่งบันเทิงสุดหรูหราชื่อดังย่านเอกมัยที่ชุมนุมเหล่าบรรดาไฮโซ ดารา และนักเที่ยวยามราตรี เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2546 ตามสไตล์ผับมีระดับขนาดใหญ่ จุคนได้กว่า 2,000 คน มีนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเฮียขาว ผู้กว้างขวางในวงการแข่งรถที่รู้จักสนิทสนมกับนายตำรวจระดับรอง ผบก. เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถึงขั้นเชิญ พ.ต.อ.คนดังนายนี้มานั่งหัวโต๊ะในงานพิธีเปิดผับด้วย ที่ใช้ชื่อว่าซานติก้า มาจากภาษาสเปน ที่แปลว่าธรรมชาติที่สวยงาม ต่อมาเริ่มประสบภาวะขาดทุนตามสภาพเศรษฐกิจและธรรมชาติของนักท่องราตรีที่มีผับแห่งใหม่เกิดขึ้นมากมายในย่านทองหล่อ และเอกมัย แม้จะทุ่มทุนอีก 40 ล้านบาท ภาพลักษณ์และรูปโฉมภายนอก นำนักร้องชื่อดังมาเล่นคอนเสิร์ตเรียกลูกค้าวัยรุ่น แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น
ขาดทุนจนต้องปิดตัวเอง
ในที่สุด ซานติก้า ผับ มีอันต้องปิดกิจการสถานบันเทิงระดับไฮโซชื่อก้อง หลังยืนหยัดอยู่บนเส้นทางธุรกิจคนกลางคืนมานาน 5 ปี ประกอบกับนายวิสุข หรือเฮียขาว เสร็จสวัสดิ์ นายทุนใหญ่ หันไปเปิดผับแห่งใหม่ ชื่อ Hobb RCA ที่ย่านอาร์ซีเอ จึงแถลงข่าวปิดตำนาน ซานติก้า ผับ อำลาร้านเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยงานส่งท้ายสุดยิ่งใหญ่ GOODBYE SANTIKA COUNTDOWN TO 2009 BADBOY PARTY ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. เชิญศิลปินเจ้าพ่อแร๊พเมืองไทย โจอี้ บอย มาร่วมแสดงคอนเสิร์ต ร่วมกับดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า และดีเจเพชรจ้า-วิเชียร์ กุศลมโนทัย จากคลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ นับถอยหลังสู่ปี 2552 ก่อนกลายเป็นโศกนาฏกรรมสยดสยองส่งท้ายปีเก่า
ลือลางร้ายบอกเหตุสยองขวัญ
หลังเหตุการณ์เพลิงนรกเผาผลาญซานติก้า ผับวอดวายคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวจำนวน 59 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงลางร้ายบอกเหตุโศกนาฏกรรมสยองกระจายไปทั่วว่า ทางร้านได้ทำโปสเตอร์เป็นรูปโจอี้ บอย และคู่ดีเจดัง โปรโมตงานปาร์ตี้อำลาซานติก้า ผับ มีรอยคราบน้ำตาไหลสีดำคล้ายเขม่าควันไฟออกมาจากใบหน้าของเจ้าพ่อแร็พชื่อดังในวงการเพลงเมืองไทย ส่วนภาพใบหน้าดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า มีรอยคราบน้ำตาสีแดงคล้ายเลือดหลั่งออกมาจากแก้มอย่างเห็นเด่นชัด ขณะเดียวกันที่เว็บไซต์ www.santikaclub.com หน้าแรกยังเต็มด้วยกราฟฟิกรูปกองเพลิงลุกโชกโชนราวกับเป็นลางบอกเหตุนับถอยหลังสู่ปี 2552 อำลาผับดังอย่างถาวร
มท.เล็งจำกัดคนเข้าผับ
นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปดูเรื่องการออกแบบว่าถูกต้องหรือไม่ มีการดัดแปลงทางเข้า-ออกอย่างไร ยากลำบากในการเข้าออกแค่ไหน และจะดูว่าใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ ซึ่ง กทม.จะดูเรื่องอาคารและสถานที่ ส่วนตำรวจจะดูเรื่องการขอใบอนุญาต แต่ที่ตรวจดูแล้วพบประตูด้านหน้ามีหลายประตูแต่ถูกปิดเหลือทางเข้าออกเพียงทางเดียว จึงทำให้มีคนตายกองอยู่เต็มประตู นอกจากนี้ จะนำเรื่องจำนวนคนที่เข้ามาเที่ยวตามผับไปพิจารณาเป็นกฎหมายบังคับ ด้วยการแก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องเพื่อออกกฎหมายจำกัดจำนวนคนเข้าไปเที่ยวตามผับทั่วประเทศ โดยจะเร่งทำเรื่องเสนอผู้ใหญ่ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนอาคารขณะนี้ได้ประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติแล้ว
รมว.ยุติธรรมจี้หาคนรับผิดชอบ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าว ภายหลังเข้าตรวจสอบแซนติก้าผับว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นจะต้องดูกฎหมายการขออนุญาตก่อสร้างว่าเป็นอาคารพาณิชย์แบบไหน สร้างเพื่ออะไร และดูว่ากฎหมายได้วางเงื่อนไขไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้การขอใบอนุญาตต้องขอจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะไปดูเงื่อนไขของตำรวจด้วย และจะดูว่าระหว่างมีการก่อสร้างได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบด้วยหรือไม่ และหน่วยงานใดต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้บ้าง ไม่ใช่เมื่อมีการขอใบอนุญาตเสร็จก็ไม่มีการติดตามการก่อสร้าง พอเกิดเหตุก็ปัดความรับผิดชอบโยนกันไปมา ซึ่งอาคารดังกล่าวมีการติดเหล็กดัดไว้โดยรอบเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง จึงต้องดูว่าเจ้าของทำผิดกฎหมายเรื่องใดบ้าง มีการประมาทเลินเล่อหรือไม่ ถ้ามีก็จะเข้าข่าย ผิดกฎหมายอาญาต้องถูกดำเนินคดี ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย ผู้เสียหายสามารถเรียกจากเจ้าของผับและเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบพื้นที่นั้นได้หากมีการประมาท และหากเป็นการประมาทร้ายแรงเจ้าหน้าที่รัฐก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ย้อนประวัติศาสตร์ไฟนรกเผาผับ
สำหรับเหตุโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้สถานบริการคร่าชีวิตนักเที่ยวสยองขวัญในเมืองไทยก่อนหน้านี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 49 เพลิงนรกลุกท่วมเผา “รูท 999” ผับขนาดใหญ่กลางเมืองพัทยา ตั้งอยู่ถนนพัทยาเหนือ สาย 3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขณะที่พนักงานกว่า 100 ชีวิตกำลังนั่งประชุมกัน ส่งผลให้คนในร้านหนีตายอลหม่าน สาวโคโยตี้ถูกไฟคลอกดับคาซากกองเพลิง 5 ศพ พนักงานหนุ่มอีก 2 ศพ มีผู้บาดเจ็บอีกเกือบ 50 ราย หลังจากนั้นไม่นานก็เกือบเกิดเหตุระทึกขวัญซ้ำรอย เมื่อเพลิงไหม้เผาฮอลลีวูด ผับดังเมืองพัทยาอีกแห่ง โชคดีที่คราวนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต