วันอังคาร, เมษายน 14, 2552

ปลุกสงกรานต์ หวนกลับคึกคัก

ตัวเลขผู้เสียชีวิตในช่วงสงกรานต์ยังเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2552 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 4 ช่วง 7 วันอันตราย ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 863 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 81 คน ผู้บาดเจ็บ 940 คน รวมสะสม 4 วันตั้งแต่วันที่ 10-13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 2,468 ครั้ง น้อยกว่าปี 51 จำนวน 481 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 220 คน น้อยกว่าปี 51 จำนวน 9 ราย บาดเจ็บ 2,658 คน น้อยกว่า ปี 51 จำนวน 657 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือเชียงราย 102 ครั้ง รองลงมาคือ นครศรีธรรมราช 94 ครั้ง

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ถึงผลการให้บริการทางการแพทย์ และสาธารณสุขช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ยอดสะสม 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-13 เม.ย. มีหน่วยแพทย์กู้ชีพออกปฏิบัติการทั้งหมด 12,621 ครั้ง เฉลี่ยนาทีละ 2 ครั้ง เป็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร 5,149 ครั้ง เจ็บป่วยกะทันหัน 5,513 ครั้ง บาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทกัน 932 ครั้ง จมน้ำ 38 ครั้ง โดยมีการออกปฏิบัติการกู้ชีพมากที่สุดในวันที่ 13 เม.ย. จำนวน 3,789 ครั้ง สาเหตุใหญ่ที่สุดของอุบัติเหตุเกิดจากเมาสุราถึงร้อยละ 44-45

สำหรับอุบัติเหตุยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดย พ.ต.ท. ธวัชชัย ดีลิ่น สารเวัตรเวร สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 14 เม.ย. ว่ามีรถกระบะเสียหลักตกน้ำริมถนนสายแสงวิมาน-คลองน้อย หมู่ 8 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง รุดไปสอบสวน พบรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียน บค 2036 กระบี่ จมอยู่ในน้ำลึกเกือบ 1 เมตร มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถ 4 คน จึงช่วยเหลือนำส่ง รพ.นครศรีธรรมราช แต่ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิต 3 ศพ ทราบชื่อนายสมเกียรติ ศิริกุล อายุ 30 ปี นายเกียรติศักดิ์ ศิริกุล อายุ 45 ปี และนายสุวิทย์ ศิริกุล อายุ 37 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายสมศักดิ์ เดชวัฒน์ อายุ 47 ปี สอบสวนทราบว่า ผู้ตายและบาดเจ็บเป็นญาติกัน ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดดื่มเหล้าฉลองสงกรานต์แล้วชักชวนกันไปดื่มต่อข้างนอก ขณะถอยรถออกมาเกิดพลาดพุ่งตกน้ำ หลังเกิดเหตุทุกคนพยายามหนีออกมา แต่เนื่องจากต่างคนต่างเมา ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้ทำให้สำลักน้ำตายอนาถ
ต่อมาช่วงเช้าวันเดียวกัน เกิดอุบัติเหตุรถ จยย.พุ่งชนราวเหล็กกั้นทางโค้งถนนบ้านฟ้านาวี หมู่ 8 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ฒศพล สมนึก พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ไปตรวจสอบพบรถ จยย. ยามาฮ่า นูโว สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน งธฉ 677 ชลบุรี ชนอัดตัดราวเหล็ก ใกล้กันพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อนายวรงกรณ์ รัตนกสิกร อายุ 26 ปี และนายพลประเสริฐ รอดภิรมย์ อายุ 48 ปี สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้ง 2 ซึ่งทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์ได้ไปนั่งกินที่ร้านอาหารกับเพื่อนๆในวันหยุดสงกรานต์ แต่เงินไม่พอจ่าย ทั้งคู่เลยอาสาขี่รถ จยย.ออกไปกดจากตู้เอทีเอ็ม ทั้งที่อยู่ในอาการมึนเมา กระทั่งประสบอุบัติเหตุ แหกโค้งดังกล่าว

อีกราย พ.ต.ท.ขวัญชาติ แจ่มจำรัส สารวัตรเวร สภ.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี รับแจ้งเมื่อเวลา 14.00 น. ว่าเกิดเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตที่ถนนสายลาดหลุมแก้ว-ปทุมธานี หมู่ 6 ต.คูบางหลวง รุดไปตรวจสอบพบรถโตโยต้า คราวน์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1ง-6072 กรุงเทพ มหานคร ใต้ท้องรถพบศพ ด.ญ.พรณภา บูรณะวิโรจน์ อายุ 14 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนชื่อ ด.ญ.วชิราภรณ์ วิทยะสัมพันธ์ อายุ 14 ปี และ ด.ญ.มนัสชยา อุเทนนาม อายุ 14 ปี จึงนำส่ง รพ.ปทุมธานี ห่างออกไป 10 เมตร พบรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน สท 2454 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สอบสวนทราบว่า ก่อน เกิดเหตุผู้ตายและบาดเจ็บนั่งท้ายรถกระบะไปเล่นน้ำสงกรานต์ ถึงที่เกิดเหตุขณะจะเลี้ยวกลับรถถูกรถเก๋งที่ขับตามหลังพุ่งชนท้าย ทำให้ ด.ญ.พรณภากระเด็นตกรถถูกทับซ้ำติดใต้ท้องรถเสียชีวิต ส่วนเพื่อนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนบรรยากาศการจัดงานสืบสานวัฒนธรรมสงกรานต์ในหลายจังหวัด มีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก โดยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 เม.ย. นายวันชัย สุทิน ผวจ.กำแพงเพชร เป็นประธานเปิดงาน “แห่ผ้าห่มพระบรมธาตุ” โดยมีการตกแต่งริ้วขบวนอย่างสวยงาม เพื่อร่วมกันนำผ้าไปห่มให้กับพระบรมธาตุเจดียาราม ที่วัดพระบรมธาตุอารามหลวง ต.นครชุม อ.เมือง กำแพงเพชร สำหรับประเพณีแห่ผ้าไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ของชาวกำแพงเพชร ได้จัดสืบทอดกันมาแต่โบราณ เนื่องจากเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียงแห่งเดียวในเขต ภาคเหนือตอนล่าง และเป็นที่เคารพศรัทธา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกำแพงเพชรตลอดมา โดยปีนี้เทศบาลเมืองกำแพงเพชร ได้อัญเชิญพระพุทธรูปและรูปหล่อพระเกจิดัง 3 องค์ประกอบด้วย พระพุทธสิหิงส์ รูปหล่อพระ อุปัชฌาย์กลึง และรูปหล่อหลวงพ่อวิเชียรโมฬี มาแห่ให้ ประชาชนได้สรงน้ำขอพรเนื่องในวันปีใหม่ของไทยด้วย

ที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เช้าค่อนข้างเงียบเหงา บริเวณรอบๆ คูเมืองมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติออกมาเที่ยวเล่นน้ำกันบางตา เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์บ้านเมือง อีกทั้งปีนี้ตำรวจปิดถนนรอบคูเมือง โดยไม่ให้รถยนต์บรรทุกถังน้ำเข้าไปในช่วงตั้งแต่ เวลา 12.00-18.00 น. กระทั่งช่วงบ่าย พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้ยกเลิกคำสั่งปิดถนนดังกล่าว ทำให้บรรยากาศการเล่นสงกรานต์เริ่มคึกคักขึ้นมาบ้าง

ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน น.ส.รัตนาภรณ์ คล่องแคล่ว อายุ 17 ปี และ น.ส.สายชล โชคดีศรีจันทร์ อายุ 18 ปี ชาว อ.เมืองพะเยา เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.คมสันต์ กันธะป้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา ว่าช่วงเย็นวันที่ 13 เม.ย. ขณะทั้งคู่ขี่รถ จยย.ผ่านถนนสายพะเยา-เชียงราย มาถึงหน้าอู่ซ่อมรถสวาทยนต์ ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา ถูกกลุ่มวัยรุ่น 3 คนใช้น้ำแข็งสาดแทนน้ำทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและดั้งจมูก ต่อมาตำรวจตามจับกุมวัยรุ่น 3 คนไว้ได้ ทราบชื่อนายอภิรัตน์ รินเทพ อายุ 18 ปี นายภาณุวัฒน์ พันธ์วงศ์ อายุ 18 ปี และนายเอก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ขณะเดินอยู่หน้าอู่ซ่อมรถดังกล่าว แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ โดยมีผู้เสียหายเข้าชี้ตัวยืนยัน ด้าน พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล ผกก.สภ.เมืองพะเยา กล่าวว่า ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุดโดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว

ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธเหมทานนท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานพิธีสรงน้ำพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ โดยมีนายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ นายอำเภอด่านขุนทด พร้อมศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธี ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณได้อวยพรให้ ลูกหลานทุกคนประสบความสุขโชคดีในวันขึ้นปีใหม่ไทย และวันผู้สูงอายุ จงเดินทางกลับอย่างปลอดภัย อย่ามีเหตุ มีลางร้ายใดๆ กันทุกๆ คน อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสรงน้ำหลวงพ่อคูณในปีนี้มีศิษยานุศิษย์เข้าร่วมน้อยกว่าปีที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมาจากต่างถิ่นลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีประชาชนออกมาเล่นน้ำตามถนนทั่วทุกสาย โดยเฉพาะถนนจอมสุรางคยาตร หรือถนนข้าวเหนียว ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต ส่วนบริเวณสวนภูมิรักษ์ข้างลานอนุสาวรีย์ท้าว สุรนารี ทางเทศบาลได้สร้างหุ่นจำลองหลวงพ่อคูณนั่งยองๆ ถือก้านไม้ขยับขึ้นลง มีการนำสายยางไปติดไว้ฉีดพ่นน้ำให้กับผู้ที่ผ่านมาไปมาคล้ายกับหลวงพ่อคูณกำลังพรมน้ำมนต์ โดยมีชาวบ้านจำนวนมากกราบไหว้สักการะและรอรับน้ำจากหุ่นจำลองหลวงพ่อคูณเพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่ จ.มุกดาหาร เทศบาลเมืองมุกดาหาร ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม จัดงานประเพณีสงกรานต์สองฝั่งโขง สามแผ่นดิน (ไทย-ลาว-เวียดนาม) ตั้งแต่วันที่ 12-16 เม.ย. มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านมาเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ กันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะบริเวณแก่งกระเบาแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด เนื่องจากช่วงนี้แม่น้ำโขงลดลงจนเห็นแก่งหินกลางลำน้ำมากมาย เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำคล้ายร้อน ขณะที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาใช้บริการขอทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวเพื่อเดินทางไปเที่ยวเมืองไกรสอน พรมวิหาร แขวงสะวันเขต ของลาว นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มยังเดินทางไปยังประเทศเวียดนาม โดยในช่วงสงกรานต์มีผู้เดินทางผ่านแดนเฉลี่ยวันละประมาณ 2,000 คน

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 15.30 น. นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่และท่องเที่ยว จัดงานเทศกาลสงกรานต์ชาวมอญ โดยมีการตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 300 รูป บริเวณสะพานไม้อุตตมราชานุสรณ์ หมู่ 4 ต.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลียที่หลวง-พ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ได้จัดสร้างขึ้น โดยนายชัยวัฒน์กล่าวว่า การจัดงานครั้งเพื่อให้ชาวไทยเชื้อสายมอญ ชาวไทยเชื้อสายอิสลาม และชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ได้ร่วมกันรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุตามแต่ละเชื้อสาย ส่วนอีกเรื่องคือทางจังหวัดได้ริเริ่มจัดตั้งกองทุนรับบริจาคซ่อมแซมสะพานดังกล่าว ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่กำลังทรุดโทรมเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป

ส่วนบรรยากาศการเล่นน้ำในกรุงเทพฯ ย่านถนนข้าวสาร หลังจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ประกาศยกเลิกการเล่นน้ำ เนื่องจากสถานการณ์การปราบปรามกลุ่มชุมนุมม็อบเสื้อแดงรุนแรง เกรงจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกันหลังกลุ่มผู้ชุมนุมยอมสลายตัว ส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี ปรากฏว่ามีคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่มาเล่นสาดน้ำกันคึกคัก แม้ผู้คนจะไม่เนืองแน่นเหมือนทุกๆปี แต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน โดยมีการรณรงค์ห้ามเล่นแป้ง ห้ามใส่ชุดสายเดี่ยวหรือแต่งตัวโป๊ รวมทั้งห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกับย่านถนนสีลม บรรยากาศค่อนข้างสนุกสนาน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาร่วมกันสาดน้ำสงกรานต์ อย่างคึกคัก